ผลการใช้ OP Natural Intensive C บำรุงผิวกาย ณ บัดนาว

 วันนี้นำข้อมูลดีๆ มาแชร์กันอีกแล้วเด้อ   


แม่ท้องจะผิวคล้ำขึ้นตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และมักจะคล้ำขึ้นเรื่อยๆ จนถึงคลอด แต่หลังจากคลอดแล้ว สีผิวจะค่อยๆ จางลงเองในช่วงตั้งครรภ์ผิวพรรณของคุณแม่มักมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดจากฮอร์โมนส่วนหนึ่ง และอีกปัจจัยภายนอกที่ทำให้สภาพผิวที่เคยสดใสต้องเปลี่ยนไปก็คือ ‘แสงแดด’ นั่นเอง โดยเฉพาะในเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน คุณแม่ยิ่งต้องระวังและดูแลผิวเป็นพิเศษ

ผิวเปลี่ยนไปเมื่อตั้งครรภ์ (ฝนเป็นแทบทุกสิ่งอย่าง T^T)

พอตั้งครรภ์แล้ว อาจจะสงสัยว่าทำไมผิวจึงคล้ำขึ้น มีรอยด่างดำ กระ ฝ้า ขึ้นมากกว่าตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ สาเหตุหลักๆ มีดังนี้

 ฮอร์โมนเพศ : พอตั้งครรภ์แล้ว ฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายจะสูงขึ้น จึงทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากกว่าปกติ นอกจากนี้ การกินยาคุมกำเนิดหรือการใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่มีฮอร์โมนเป็นส่วนผสม ก็มีส่วนกระตุ้นให้ผิวหนังเกิด ริ้วรอยและจุดด่างดำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

 แสงแดด : หากอยู่กลางแดดที่จัด เกินไป ผิวหนังจะถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดมากกว่าบริเวณอื่น หมองคล้ำและเกิดริ้วรอยมากกว่า

 กรรมพันธุ์ : ส่วนใหญ่มักจะสัมพันธ์กับการเกิดกระ ถ้าคนในครอบครัวเป็น ก็จะมีโอกาสเป็นกระมากกว่าคนที่ครอบครัวไม่ได้เป็นเรื่องผิวๆ กับริ้วรอย เมื่อตั้งครรภ์

 ฝ้า : เกิดจากการเพิ่มจำนวนเม็ดสีที่ผิวหนัง เป็นผื่นสีน้ำตาล ที่ใบหน้าหรือบริเวณที่ถูกแสงแดด มักจะเกิดขึ้นทีละช้าๆ และเป็นเหมือนกันทั้ง 2 ข้างของใบหน้า และจะมีสีคล้ำขึ้นเมื่อถูกแสงแดด ในบางคนอาจพบรอยดำบริเวณหัวนม รักแร้ ขาหนีบ หรือ อวัยวะเพศร่วมด้วย

 กระ : เป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มีขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร ขอบเขตไม่ชัดเจน มักพบกระจายทั่วใบหน้าและแขน ถ้าโดนแดดสีจะเข้มขึ้นและจะจางลงเมื่อไม่โดนแดด กระแบ่งออกเป็น

 กระเนื้อ : เป็นตุ่มสีน้ำตาลหรือสีดำ เป็นก้อนเล็กๆ ผิวเรียบหรือขรุขระ มักพบบริเวณใบหน้า คอ หรือลำตัว บางท่านอาจมีกระเนื้อขึ้นในระหว่างที่ตั้งครรภ์ และมักมีจำนวนมากขึ้นตามอายุ บางส่วนจะหายไปเองหลังคลอด

 กระแดด : เป็นดวงสีน้ำตาล ผิวเรียบ มักขึ้นตามบริเวณหน้าหรือแขน พบในผู้ที่มีอายุมากหรือผู้ที่ต้องทำงานกลางแสงแดดเป็นเวลานาน

 ติ่งเนื้อสีน้ำตาล : เกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนัง เนื่องจากแม่ท้องมักขี้ร้อนและเหงื่อออกง่ายทำให้เกิดเชื้อราบริเวณที่อับชื้นหรือซอกพับต่างๆ ได้ง่าย เช่น คอ ใต้ราวนม รักแร้ ขาหนีบ ซึ่งติ่งเนื้อจะไม่หายไปหลังคลอด แต่ต้องให้คุณหมอตัดหรือใช้เลเซอร์จี้ออก (ปัญหานี้ประสบเยอะมาก สงสัยต้องไปเลเซอร์หลังคลอด)

ดูแลผิวให้สวย

ริ้วรอยบางประเภทถึงแม้จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ทันที แต่ก็สามารถป้องกันไม่ให้เกิดเพิ่มขึ้นได้

หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน และทาครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง (ควรทาก่อน 15-20 นาที) สวมหมวกหรือกางร่ม

หลีกเลี่ยงการได้รับฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด เครื่องสำอางที่มีฮอร์โมนหรือมีสารสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม

ดูแลผิวหนังอย่าให้เกิดการอับชื้น เมื่อเกิดผื่นคันควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ไม่ควรซื้อยามากินหรือทาเอง

ไม่เครียดและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

หมั่นกินผัก ผลไม้ และดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ

หลีกเลี่ยงการใช้สบู่เพราะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมัน ตามธรรมชาติไป ควรเลือกครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์แทน หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นเพื่อบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว

ที่มา http://www.motherandcare.in.th/

.........................................................................................................................

เข้าสู่โหมดแนะนำตัวที่ใช้ ณ บัดนาว เป็น Oriental Princess
Natural Intensive C Repairing Serum : แกับ Radiance C : Radiant Toner


ที่เลือกใช้เพราะว่าเมื่อได้ปรึกษาหลายท่านที่ท้องและผู้มีประสบการณ์ก็บอกว่า Vit C เป็นตัวที่สาวตั้งครรภ์ใช้ได้ตัวหนึ่งในการดูแลผิวพรรณ ดังนั้นฝนคงต้องหาตัวช่วยด่วน ก่อนที่อาการด้านบนจะเป็นมากขึ้น

คุณสมบัติ

Repairing Serum : ซีรั่มฟื้นฟูผิวกลางคืน ช่วยบำรุงผิวหมองคล้ำอย่างเข้มข้น เพื่อผิวใหม่ที่สดใสเปล่งประกาย

Radiant Toner : โลชั่นเช็ดผิวหลังการล้างหน้า ทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างและช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก และเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วออกได้อย่างอ่อนโยน เพื่อเตรียมผิวให้ฉุ่มฉ่ำ พร้อมเตรียมสภาพผิวให้พร้อมต่อการซึมซาบสารบำรุงอย่างเต็มที่ในขั้นตอนต่อไป

ที่เลือกใช้ 2 ตัวนี้เพราะเลือกเฉพาะที่คิดว่าจำเป็น
ถ้าทั้งเซ็ตเกรงว่าจะมากเกินไปกับการบำรุงเพราะก็หลายตัวอยู่
ที่ทั้งล้างทั้งมาส์กซึ่งมันไม่จำเป็นนะจ๊ะ จะเยอะไปนิด


ปัญหาที่ประสบ : ข้อพับทุกส่วนดำ (ดำมาก น่าตกใจ) แนวก้นที่นั่งกับเก้าอี้ก็คล้ำ (ส่วนขาด้านหลัง) ก็คล้ำลง ผิวหยาบๆ ไม่นุ่มเนียน ไม่ร่วมหน้าท้อง เพราะหน้าท้องจะใช้ตัวบำรุงอีกประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ



วิธีใช้ :

1. จะใช้ Radiant Toner เช็ดผิวในส่วนที่เป็นรอยดำ รอยกังวลใจต่างๆ (ยกเว้นบริเวณหน้าท้อง) เช่น ข้อพับแขน ขา ก้น ฯ เนื่องจากทุกเช้า-เย็น เราต้องทาครีมจำนวนมาก เมื่ออาบน้ำเสร็จจึงต้องทำความสะอาดผิวด้วยการเช็ดสิ่งสกปรกตกค้างสักนิด

2. จะใช้ Repairing Serum เป็นตัวทาบำรุงหลังจากเช็ดโทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว เน้นทาในส่วนที่เป็นปัญหา รวมทั้งทาแขนและขาด้วย (ยกเว้นหน้าท้อง)

"ผลการทดลองพบกว่าผ่านไป 1 อาทิตย์ (เพิ่งซื้อมาใช้ได้อาทิตย์เดียว แต่ผลค่อนข้างชัดเจนดีจัง) ผิวเนียนและลดความหยาบไปได้มาก ถ้าทาตอนก่อนนอนตื่นเช้ามาจับผิวก็รู้สึกนุ่มดี ผิวลื่นๆ เนียนๆ ความกระจ่างใสของผิวโอเคเลย ตามรอยดำที่ดำมากอาจเห็นผลช้าแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้รับการบำรุง แต่ตรงส่วนที่เป็นรอยคล้ำตามแทบที่สัมผัสกับเก้าอี้ก็เห็นชัดว่าเริ่มคืนสภาพปกติ แต่ก็ไม่ได้ขาวเจริญหู เจริญตาเหมือนก่อน เพียงแต่อาการดีขึ้น"

 
 กลิ่น
 
 ให้เต็ม 10 คะแนน กลิ่นอ่อนๆ น่าใช้ ไม่วิงเวียนหัว

 
 คุณภาพ
 
 ให้ 8 คะแนน เพราะต้องการดูผลระยะยาวสักนิด

 
 ราคา
 
 ให้ 10 คะแนน ราคาย่อมเยาว คุณภาพโอเคเลย อ่านจากรีวิวในจีบันหลายคนก็ชอบ

 
 การซึมสู่ผิว
 
 ให้ 9 คะแนน ไม่เหนียวเหนอะ กำลังดีถึงดีมาก

 
 ความพึงพอใจ
 
 ให้ 8 คะแนนใช้ง่ายดี ซึมไว
(แต่ถ้าเป็นโทนเนอร์ต้องใช้ชุ่มๆ สักนิดจะเห็นคราบสกปรกที่เกิดจากครีมตกค้างได้ชัดเจน)

นับว่าน่าสนใจทีเดียวและจะใช้ต่อไป
อีกอย่างผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีคุณภาพที่สาวจีบันรีวิว
แล้วนับว่าคุณภาพแจ่มเกินราคาจริงๆ


ยังไม่ได้ใช้ทดลองทาและเช็ดกับผิวหน้านะคะ เพราะผิวหน้าไม่ได้ใช้ Vit C ตัวนี้

โอกาสหน้าจะรีวิวโลชั่นบำรุงผิวที่ใช้ทาตัว ณ ปัจจุบัน ต่อไป

Discussion (23)

พี่ฝนเอามาทาผิวใช่ไหมค่ะ
เเล้วจะเริ่มใช้ตอนท้องได้กี่เดือน อะค่ะ

^^ ลองใช้มาแล้วค่ะ..รู้สึกว่าใช้แล้วหน้ามันกว่าเดิมอีกอะ..ทาก่อนนอนตื่นมาหน้ามันเยิ้มเลยสิวผดขึ้นด้วย..ใครช่วยแนะนำครีมตัวที่ลดความมันหน่อยได้มั้ยค่ะ..ขอบคุนล่วงหน้าค่ะ..^^
หลายคนยืนยันแบบนี้ คงต้องลองมั่งล่ะ *0*

ตัวนี้ใช้ทาหน้าได้ค่ะ จริงๆ แล้วเค้าไว้ปรนนิบัติผิวหน้า
แต่ฝนนำมาปรับใช้กับอาการที่เป็นอยู่จ้า เห็นราคามันน่าคบถ้าจะใช้กับบอดี้อ่ะค่ะ

ใช้ทาหน้าก็ได้ใช่ไหมค่ะนี่