.PLOYFONZ29 Jul 1019.Discussion (19)SEND Anonymous14 yr.วิศวะใช้ภาษาเยอะครับ สายวิทย์เป็นแค่พื้นฐานและทักษะที่ใช้ในการเรียนแต่ ตอนทำงานเราต้องใช้ ทักษะที่เรียนมาและทักษะทางภาษาด้วยครับ เพราะวิศวะของประเทศไทยเราส่วนใหญ่แล้วจะรับงานมาจากต่างประเทศ ถ้าเราสามารถสื่อสารกับฝ่ายต่างประเทศได้โดยตรงจะเป็นการดีมากต่อตัวเราเอง เป็นวิศวะกรเจ๋งจริงต้องเซียนภาษาด้วยครับ เราทำงานในโลกกว้างครับ REPLY yoryam15 yr.อย่าไปเครียดคุณน้อง เป็นเด็กเป็นเล็กเครียดมากไม่ดีนะคะ พี่เรียนสายวิทย์ เกรดห่วยแตก สอบเข้ามหาลัยคณะวิจิตร (เกี่ยวอะไรกันมั้ย??) จบมาทำงานสายการบิน เออ มีอะไรเกี่ยวเนื่องกันมั่ง ดูเอาไว้ว่าชีวิตมันไม่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โอกาสและเวลาค่ะ พี่เรียนมาไม่ได้เรียนสายภาษา แต่สุดท้ายได้ใช้ภาษาทุกวัน มันขึ้นอยู่กับใจรักค่ะ ไม่ต้องเรียนมามันก็ทำได้ (ถึงมันจะไม่แม่นแกรมม่าก็เหอะ) ความคิดปัจจุบันมันตัดสินอนาคตไม่ได้ค่ะ มันขึ้นอยู่กับ ณ เวลานั้นๆต่างหาก จำไว้นะจ๊ะ เพราะงั้นตอนนี้อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ แต่เรียนสายวิทย์มาแล้วนี่ ก็เรียนให้มันจบซะ อย่าไปคิดไรให้มาก ไม่มีไรยากเกินว่าสมองคนมันจะทำได้หรอก เชื่อสิ สรุปคือ อย่าไปเครียดมากกับชีวิตตอนนี้ ตอนแก่มามีอะไรให้เครียดอีกเยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ REPLY iMEAW15 yr.ลองเอาวิธีของคุณหนูดีไปใช้สิค่ะ ลองหลับตาลงแล้วจินตนาการว่า ตอนอายุ 50-60 ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มีอะแล้วบ้าง? ได้ผลมากๆเลยค่ะ พี่เป็นคนนึงที่ชอบภาษาเหมือนกัน ไม่คิดจะเรียนสายวิทย์ด้วย คิดว่าเรียนทำไมหนักก็หนัก เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เพราะชอบภาษา แต่พอมาวันนี้ ลองหลับตาลงพี่กลับเห็นตัวเองใส่ชุดกราวสีขาว พี่ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมวันนั้นเราไม่เลือกสายวิทย์ น้ำตาไหลเลยค่ะ ความชอบของเราในวัยเด็ก กับความเป็นในปัจจุบัน อนาคตเราเปลี่ยนได้เสมอจริงๆ เราไม่รู้ว่ามันจะใช่จริงหรอ สำหรับเรา? ดังนั้น ถ้าน้องมีโอกาสได้เรียนสายวิทย์ ก็เรียนไปเถอะค่ะ ถ้าเรียนไหว ยังไงสายนี้ ก็เลือกหันหัวไปได้ทุกสาขาอยู่แล้ว ดีกว่าลงมามีข้อจำกัดนะค่ะ ^_____________^ REPLY sarujun15 yr.เรียนสายวิทย์ ก็ใช่ว่าจะทำงานด้านภาษาไม่ได้นี่นา อย่าเพิ่งกังวลกับอนาคต ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ถึงจะไม่ได้เรียนในสายที่ชอบ แต่เราก็สามารถพัฒนาทักษะในสิ่งที่เราชอบได้ด้วยวิธีอื่นนี่นา สมัยนี้ส่วนน้อยนะคะที่ได้ทำงานตรงกับสายที่ตัวเองจบมา อยากพัฒนาภาษาอักฤษ ก็อาจจะดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือภาษาอังกฤษก็ได้ พี่ก็เรียนสายวิทย์ แต่ดันชอบภาษามากกว่า พี่ก็ใช้วิธีนี้แหละค่ะ พยายามเข้านะคะ REPLY rumi15 yr.พี่เองก็รียนสายวิทย์นะ แต่พี่อยากเป็นสถาปนิกไงเรยเลือกเรียนวิทย์ ทั้งที่พี่เองก็ไม่ได้เก่ง ใครเรียนวิทย์ไม่ตกเรยสักวิชาก็เทพเกิ๊นค่ะน้อง อย่าท้อนะ พี่เองก็สู้ๆๆจนจบมาได้ ส่วนเรื่องที่น้องอยากเรียนภาษาพี่จะยกตัวอย่างเพื่อนพี่คนนึง เพื่อนพี่เรียนได้เกรด3.8-3.9 บางเทอมได้4.00 มันชอบภาษาแต่มาเรียนวิทย์เหมือนน้องเรย แต่พอจบไปเข้ามหาลัย มันก็ได้เรียนสายศิลป์ภาษาอย่างที่มันต้องการ พี่ว่านะสายวิทย์เองก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เยอะนะ เพราะศัพท์ส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษ และบางทีตำราบางเล่มเป็นภาษาอังกฤษเรยนะ พี่เองที่หนีมาเรียนวิทย์เพราะคิดว่าจะไม่เจออังกฤษแต่ที่ไหนได้เจอเต็มๆ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้พี่ว่าหนูนะ อย่าเพิ่งอคติหรือมองมันในแง่ลบ มองมุมบวกให้กำลังใจตัวเองให้เรามีความสุขกับมัน ส่วนเรื่องที่นูอยากเรียภาษานั้นพี่วาหนูก็ฝึกฝนหาความรู้เพิ่มเติมได้เองเรยนะเพราะว่าถ้าเราได้พูดคุยฟังมากๆเราก็จะซึมซับได้เร็ว พอข้ามหาลัยหนูก็จะมีทางเลือกที่มากขึ้นด้วยไปได้หลายๆทาง ไม่แน่เมื่อวันนึงที่หนูเกิดตกหลุมรักสายวิทย์เมื่อนั้นหนูอาจจะคิดว่าหนูคิดถูกแล้วี่เลือกมันก็ได้ สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ จะว่าไปตอนนี้พี่เองก็คิดว่าพี่เลือกเรียนสายผิดทั้งๆที่อยู่ปี4แล้วฮ่าๆๆแต่พี่ทำไรไม่ได้แล้วต้องก้มหน้ายอมรับความจริงและสู้กับมันต่อไป สู้ๆๆๆ REPLY VIEW 5 OLDER COMMENTS
Anonymous14 yr.วิศวะใช้ภาษาเยอะครับ สายวิทย์เป็นแค่พื้นฐานและทักษะที่ใช้ในการเรียนแต่ ตอนทำงานเราต้องใช้ ทักษะที่เรียนมาและทักษะทางภาษาด้วยครับ เพราะวิศวะของประเทศไทยเราส่วนใหญ่แล้วจะรับงานมาจากต่างประเทศ ถ้าเราสามารถสื่อสารกับฝ่ายต่างประเทศได้โดยตรงจะเป็นการดีมากต่อตัวเราเอง เป็นวิศวะกรเจ๋งจริงต้องเซียนภาษาด้วยครับ เราทำงานในโลกกว้างครับ REPLY
yoryam15 yr.อย่าไปเครียดคุณน้อง เป็นเด็กเป็นเล็กเครียดมากไม่ดีนะคะ พี่เรียนสายวิทย์ เกรดห่วยแตก สอบเข้ามหาลัยคณะวิจิตร (เกี่ยวอะไรกันมั้ย??) จบมาทำงานสายการบิน เออ มีอะไรเกี่ยวเนื่องกันมั่ง ดูเอาไว้ว่าชีวิตมันไม่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โอกาสและเวลาค่ะ พี่เรียนมาไม่ได้เรียนสายภาษา แต่สุดท้ายได้ใช้ภาษาทุกวัน มันขึ้นอยู่กับใจรักค่ะ ไม่ต้องเรียนมามันก็ทำได้ (ถึงมันจะไม่แม่นแกรมม่าก็เหอะ) ความคิดปัจจุบันมันตัดสินอนาคตไม่ได้ค่ะ มันขึ้นอยู่กับ ณ เวลานั้นๆต่างหาก จำไว้นะจ๊ะ เพราะงั้นตอนนี้อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ แต่เรียนสายวิทย์มาแล้วนี่ ก็เรียนให้มันจบซะ อย่าไปคิดไรให้มาก ไม่มีไรยากเกินว่าสมองคนมันจะทำได้หรอก เชื่อสิ สรุปคือ อย่าไปเครียดมากกับชีวิตตอนนี้ ตอนแก่มามีอะไรให้เครียดอีกเยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ REPLY
iMEAW15 yr.ลองเอาวิธีของคุณหนูดีไปใช้สิค่ะ ลองหลับตาลงแล้วจินตนาการว่า ตอนอายุ 50-60 ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มีอะแล้วบ้าง? ได้ผลมากๆเลยค่ะ พี่เป็นคนนึงที่ชอบภาษาเหมือนกัน ไม่คิดจะเรียนสายวิทย์ด้วย คิดว่าเรียนทำไมหนักก็หนัก เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เพราะชอบภาษา แต่พอมาวันนี้ ลองหลับตาลงพี่กลับเห็นตัวเองใส่ชุดกราวสีขาว พี่ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมวันนั้นเราไม่เลือกสายวิทย์ น้ำตาไหลเลยค่ะ ความชอบของเราในวัยเด็ก กับความเป็นในปัจจุบัน อนาคตเราเปลี่ยนได้เสมอจริงๆ เราไม่รู้ว่ามันจะใช่จริงหรอ สำหรับเรา? ดังนั้น ถ้าน้องมีโอกาสได้เรียนสายวิทย์ ก็เรียนไปเถอะค่ะ ถ้าเรียนไหว ยังไงสายนี้ ก็เลือกหันหัวไปได้ทุกสาขาอยู่แล้ว ดีกว่าลงมามีข้อจำกัดนะค่ะ ^_____________^ REPLY
sarujun15 yr.เรียนสายวิทย์ ก็ใช่ว่าจะทำงานด้านภาษาไม่ได้นี่นา อย่าเพิ่งกังวลกับอนาคต ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ถึงจะไม่ได้เรียนในสายที่ชอบ แต่เราก็สามารถพัฒนาทักษะในสิ่งที่เราชอบได้ด้วยวิธีอื่นนี่นา สมัยนี้ส่วนน้อยนะคะที่ได้ทำงานตรงกับสายที่ตัวเองจบมา อยากพัฒนาภาษาอักฤษ ก็อาจจะดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือภาษาอังกฤษก็ได้ พี่ก็เรียนสายวิทย์ แต่ดันชอบภาษามากกว่า พี่ก็ใช้วิธีนี้แหละค่ะ พยายามเข้านะคะ REPLY
rumi15 yr.พี่เองก็รียนสายวิทย์นะ แต่พี่อยากเป็นสถาปนิกไงเรยเลือกเรียนวิทย์ ทั้งที่พี่เองก็ไม่ได้เก่ง ใครเรียนวิทย์ไม่ตกเรยสักวิชาก็เทพเกิ๊นค่ะน้อง อย่าท้อนะ พี่เองก็สู้ๆๆจนจบมาได้ ส่วนเรื่องที่น้องอยากเรียนภาษาพี่จะยกตัวอย่างเพื่อนพี่คนนึง เพื่อนพี่เรียนได้เกรด3.8-3.9 บางเทอมได้4.00 มันชอบภาษาแต่มาเรียนวิทย์เหมือนน้องเรย แต่พอจบไปเข้ามหาลัย มันก็ได้เรียนสายศิลป์ภาษาอย่างที่มันต้องการ พี่ว่านะสายวิทย์เองก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เยอะนะ เพราะศัพท์ส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษ และบางทีตำราบางเล่มเป็นภาษาอังกฤษเรยนะ พี่เองที่หนีมาเรียนวิทย์เพราะคิดว่าจะไม่เจออังกฤษแต่ที่ไหนได้เจอเต็มๆ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้พี่ว่าหนูนะ อย่าเพิ่งอคติหรือมองมันในแง่ลบ มองมุมบวกให้กำลังใจตัวเองให้เรามีความสุขกับมัน ส่วนเรื่องที่นูอยากเรียภาษานั้นพี่วาหนูก็ฝึกฝนหาความรู้เพิ่มเติมได้เองเรยนะเพราะว่าถ้าเราได้พูดคุยฟังมากๆเราก็จะซึมซับได้เร็ว พอข้ามหาลัยหนูก็จะมีทางเลือกที่มากขึ้นด้วยไปได้หลายๆทาง ไม่แน่เมื่อวันนึงที่หนูเกิดตกหลุมรักสายวิทย์เมื่อนั้นหนูอาจจะคิดว่าหนูคิดถูกแล้วี่เลือกมันก็ได้ สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ จะว่าไปตอนนี้พี่เองก็คิดว่าพี่เลือกเรียนสายผิดทั้งๆที่อยู่ปี4แล้วฮ่าๆๆแต่พี่ทำไรไม่ได้แล้วต้องก้มหน้ายอมรับความจริงและสู้กับมันต่อไป สู้ๆๆๆ REPLY
Discussion (19)
พี่เรียนสายวิทย์ เกรดห่วยแตก สอบเข้ามหาลัยคณะวิจิตร (เกี่ยวอะไรกันมั้ย??) จบมาทำงานสายการบิน เออ มีอะไรเกี่ยวเนื่องกันมั่ง ดูเอาไว้ว่าชีวิตมันไม่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โอกาสและเวลาค่ะ พี่เรียนมาไม่ได้เรียนสายภาษา แต่สุดท้ายได้ใช้ภาษาทุกวัน มันขึ้นอยู่กับใจรักค่ะ ไม่ต้องเรียนมามันก็ทำได้ (ถึงมันจะไม่แม่นแกรมม่าก็เหอะ) ความคิดปัจจุบันมันตัดสินอนาคตไม่ได้ค่ะ มันขึ้นอยู่กับ ณ เวลานั้นๆต่างหาก จำไว้นะจ๊ะ เพราะงั้นตอนนี้อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ แต่เรียนสายวิทย์มาแล้วนี่ ก็เรียนให้มันจบซะ อย่าไปคิดไรให้มาก ไม่มีไรยากเกินว่าสมองคนมันจะทำได้หรอก เชื่อสิ
สรุปคือ อย่าไปเครียดมากกับชีวิตตอนนี้ ตอนแก่มามีอะไรให้เครียดอีกเยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ลองหลับตาลงแล้วจินตนาการว่า ตอนอายุ 50-60 ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มีอะแล้วบ้าง?
ได้ผลมากๆเลยค่ะ พี่เป็นคนนึงที่ชอบภาษาเหมือนกัน
ไม่คิดจะเรียนสายวิทย์ด้วย คิดว่าเรียนทำไมหนักก็หนัก
เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เพราะชอบภาษา
แต่พอมาวันนี้ ลองหลับตาลงพี่กลับเห็นตัวเองใส่ชุดกราวสีขาว
พี่ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมวันนั้นเราไม่เลือกสายวิทย์
น้ำตาไหลเลยค่ะ
ความชอบของเราในวัยเด็ก กับความเป็นในปัจจุบัน
อนาคตเราเปลี่ยนได้เสมอจริงๆ
เราไม่รู้ว่ามันจะใช่จริงหรอ สำหรับเรา?
ดังนั้น ถ้าน้องมีโอกาสได้เรียนสายวิทย์ ก็เรียนไปเถอะค่ะ ถ้าเรียนไหว
ยังไงสายนี้ ก็เลือกหันหัวไปได้ทุกสาขาอยู่แล้ว ดีกว่าลงมามีข้อจำกัดนะค่ะ
^_____________^
อย่าเพิ่งกังวลกับอนาคต ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ
ถึงจะไม่ได้เรียนในสายที่ชอบ แต่เราก็สามารถพัฒนาทักษะในสิ่งที่เราชอบได้ด้วยวิธีอื่นนี่นา
สมัยนี้ส่วนน้อยนะคะที่ได้ทำงานตรงกับสายที่ตัวเองจบมา
อยากพัฒนาภาษาอักฤษ ก็อาจจะดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือภาษาอังกฤษก็ได้
พี่ก็เรียนสายวิทย์ แต่ดันชอบภาษามากกว่า พี่ก็ใช้วิธีนี้แหละค่ะ
พยายามเข้านะคะ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้พี่ว่าหนูนะ อย่าเพิ่งอคติหรือมองมันในแง่ลบ มองมุมบวกให้กำลังใจตัวเองให้เรามีความสุขกับมัน ส่วนเรื่องที่นูอยากเรียภาษานั้นพี่วาหนูก็ฝึกฝนหาความรู้เพิ่มเติมได้เองเรยนะเพราะว่าถ้าเราได้พูดคุยฟังมากๆเราก็จะซึมซับได้เร็ว พอข้ามหาลัยหนูก็จะมีทางเลือกที่มากขึ้นด้วยไปได้หลายๆทาง ไม่แน่เมื่อวันนึงที่หนูเกิดตกหลุมรักสายวิทย์เมื่อนั้นหนูอาจจะคิดว่าหนูคิดถูกแล้วี่เลือกมันก็ได้
สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ จะว่าไปตอนนี้พี่เองก็คิดว่าพี่เลือกเรียนสายผิดทั้งๆที่อยู่ปี4แล้วฮ่าๆๆแต่พี่ทำไรไม่ได้แล้วต้องก้มหน้ายอมรับความจริงและสู้กับมันต่อไป สู้ๆๆๆ