คลุมถุงชนหนูทำไม???

คือว่าตอนนี้เครียดมากเลยค่ะที่บ้านชอบพูดเรื่องเเต่งงานกัน เราตอนนี้คบกับเเฟนที่เจอกันที่มหาลัยมาได้2ปีกว่าๆ

เพื่อนๆที่เป็นรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องที่เป็นญาติสนิทเรา ก็ทยอยกันเเต่งงานหมดเเล้วนะคะ

เเม่เราก็เลยพยายามจะให้เราคุยกับผู้ชายที่เค้าคิดว่าดี(เราก็ไม่ได้ว่าอะไร)

เเต่เค้าก็รู้ว่าเรามีเเฟน นิสัยไม่อยากบอกว่าดีเเต่ก็ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่นอกใจ เคร่งศาสนา ก็น่าจะพอสำหรับเราเเล้ว
เเต่เเม่เรากลับต้องการคนที่เป็นญาติ(ญาติของญาตินะคะ)กันเอง โดยไม่สนใจเเฟนเราเลย ดีเเต่อคติอ่ะค่ะ

พอมาวันนี้ เค้าบอกว่าให้เราลองคุยกับคนที่เค้าหามาให้ เราก็บอกว่าเเม่อคติกับเเฟนเราใช่ไหมเพราะเค้า

ไม่ใช่ญาติเราหลอทั้งที่เค้าก็ดี เเม่บอกว่าเรายังมีสิทธิเลือกก็ให้เลือกไป (เราก็รู้นะคะว่าเเม่หวังดีต่อเราที่สุดเเล้ว อย่าว่าเเม่เรานะ) นี่หมายความว่าเเม่ให้เรามีกิ๊กใช่ป่ะคะ 55++

เเต่เราก็บอกไปว่าเราคบใครก็คบคนเดียว เราไม่อยากทำเเบบนั้นมันเเปลว่าให้โอกาศคนๆนั้นใช่ป่ะ
มิหนำซ้ำหน้าเราก็ไม่เคยเห็นเค้า เค้าก็ไม่เคยเห็นเราจะให้คุยอะไร พอเราบอกว่าเรารักเดียวใจเดียวมันผิดหลอ

ผ่านไปวันนึง เเม่ไม่ยอมคุยกับเราเเบบงอลๆอ่ะค่ะ เเล้วบอกว่าเเม่ไม่สนใจเเล้วทำกับเเม่เเบบนี้ เเม่เราชอบคนๆนั้นไปแล้วหลอเเต่เเม่เราไม่เคยเห็นหน้าเลยเนี๊ยนะ เเค่ฟังสรรพคุณคนนั้นมาจากญาติผู้ใหญ่ก็ว่าเค้าดีเเล้วหลอ

งงค่ะนี่มันเกิดอารัยขึ้นเนี๊ย เราทำไงดีอ่า

คนไทยสมัยก่อนนิยมใช้วิธีนี้กับลูกหลานกันมาก หนุ่มสาวก็สามารถอยู่กันได้ตลอดรอดฝั่ง ถ้าเป็นปัจจุบัน คิดว่าจะราบรื่นเหมือนสมัยก่อนหรือคะ
 

Discussion (26)

ไม่น่าเชื่อว่ายังมีแบบนี้อยู่... น่าจะลองคุยกันก่อนนะว่าทำไมแม่ไม่ปลื้ม...แล้วค่อยๆปรับกันไป อย่าคิดมาก ชีวิตยังอีกยาวไกล
ช่ายค่ะ เค้าเรียกว่าญาติเป็นดอง ก็แต่งงานกันได้อ่ะค่ะ แต่เราสุดจะทนแล้วจริงๆ เพราะอีตานั่นมันดูหื่นๆอ่ะค่ะ

นี่คลุมถุงชนเค้ายังมีอยู่รึ

จับเข่าคุยกันค่ะ

บอกแม่ไปตรงๆค่ะ

เรื่องนี้เป็นความสุข เป็นชีวิตทั้งชีวิตของคุณ

จะดีจะเลวขอตัดสินใจเองค่ะ

สู้ๆ ค่ะ เพื่อตัวคุณเอง

เรื่องเกี่ยวกับการคลุมถุงชน สมัยก่อนไม่ใช่ว่าเขาอยู่กันได้ยืดหรอกนะค่ะ
แต่เพราะสมัยนั้น(นานมากกกกแล้ว) ผู้หญิงรุ่นก่อนๆ จะถูกปลูกฝังให้โตขึ้นมาเป็นแม่ศรีเรือน
น้อยมากที่จะเป็นผู้หญิงทำงาน(หรือแทบไม่มีเลย) เรา(ผู้หญิงสมัยนั้น)จะมีหน้าที่เป็นภรรยาและแม่ของลูกเท่านั้น
การแต่งงาน ถ้าดีก็โชคดีไปแต่ถ้าแย่ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องทน
เพราะสมัยก่อนการหย่าถือเป็นเรื่องแย่ในสังคม...ผู้ชายที่ถูกขอหย่าอาจถูกมองโดยคนรอบข้างว่าเป็นคนไม่สมบูรณ์
สมบูรณ์ในที่นี้หมายถึง อาจเป็นคนมีหน้ามีตา มีหน้าที่การงาน เป็นคนดี แต่ไม่มีเมีย(ข้อนี้ร้ายแรงมาก)
จะถือว่าผิดปกติในสังคมมากๆ และตัวผู้หญิงเองก็ไม่นิยมขอหย่าเพราะไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้(หย่าไปใครจะเลี้ยง)
ออกเหย้าออกเรือนมาแล้ว (คุณค่าจะตกลงทันที)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสมัยนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้วอะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้น มีสิทธิ์กว่าแต่ก่อน
การหย่าไม่ใช่เรื่องผิด,ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี,หาเลี้ยงตัวเองได้ ฯลฯ
เขียนมายืดยาวอาจช่วยอะไรไม่ได้มากแต่อยากให้เข้าใจถึงสังคมในเชิงลึกเฉยๆ นะค่ะ
คนเรามีสิทธิ์ที่จะมี จะเป็น หรือ จะไม่เป็น ไม่มี ลองคิดดูดีๆนะค่ะ (^ ^)