แค่อยากระบายค่ะ ช่วยรับฟังที

ูู^^
 

Discussion (19)

อย่าคิดมากเลยค่ะ เราคิดดี พูดดี ทำดีซะอย่าง ยังงัยต้องได้ดีค่ะ
ทำบุญเยอะๆ สวดมนต์บ่อยๆนะคะ จะได้สบายใจ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอให้ได้งานเร็วๆนะคะ
อ่านแล้วน้ำตาซึม สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณทุกๆ คอมเม้น ที่คอยให้กำลังกันนะคะ วันนี้ก้อยได้ระบายแล้วรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ ก้อยไม่เคย โกรธรึเกลียดพ่อแม่นะคะ เพราะถึงแม้ว่าตอนนี้ ก้อยอาจจะไม่ใช่ลูกรักของพ่อแม่รึบางทีอาจจะเป็นลูกรักแต่เค้าไม่แสดงออก ก้อยก็ไม่เคยโกรธรึเกลียดท่านเพราะท่านคือบุพการีค่ะ คิดและรำลึกเสมอว่าท่านคือผู้มีพระคุณที่สุดมากกว่าใครๆ แต่แค่น้อยใจเท่านั้นค่ะ 
 
คุณ yol ขอบคุณพี่มากๆค่ะสำหรับคำแนะนำ ก้อยจะทำตามคำแนะนำของพี่ค่ะ จะเอาเป็นแรงฮึด เพื่อวันข้างหน้าของก้อยเอง ขอบคุณมากนะคะ
แนะนำให้หางานทำค่ะ ลองดูหน่วยราชการที่ไม่ขึ้นกับ ก.พ. (มีหลายที่นะคะ) ซึ่งเค้าเปิดสอบเอง จะได้มีทางเลือกมากขึ้น ระหว่างนี้อ่านหนังสือ+ข่าวสารบ้านเมืองเตรียมตัวไว้ เพราะที่ไหนๆ ก็คู่แข่งเยอะ เพียงแต่หน่วยราชการที่ไม่ขึ้นกับ ก.พ. เค้ามีอิสระในเรื่องอัตรากำลังบุคคลมากกว่า (ราชการที่ขึ้นกับ ก.พ. จะต้องอิงนโยบายรัฐบาล ซึ่งต้องการให้ลดคน ไม่ใช่เพิ่มคน)

สำหรับปัญหาในครอบครัวที่พบ อยากบอกว่าพี่เองเคยเจอปัญหาแบบเดียวกัน แม่มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่พอใจพ่อ (พ่อทิ้งแม่ไปบวชตลอดชีวิต)   พี่เป็นลูกคนโปรดของพ่อเลยโดนเขม่นไปด้วย  ในขณะที่แม่รักหลานชายมากๆๆๆๆๆๆๆ  ทูนหัวทูนเกล้าให้ทุกอย่าง เข้าข้างทุกเรื่องแม้แต่โดดเรียนบ้าง โกหกเป็นนิจสินบ้าง   แต่พี่ใช้ปัญหานี้มาเป็นแรงผลักดันค่ะ  อดทนสู้ด้วยตนเองจนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐ   มีช่วงตกงานอยู่ ๓ ปี ก็โดนกระแนะกระแหนและไม่ให้เงินใช้แบบเดียวกัน (ไม่ให้แบบไม่ให้จริงๆ เลยนะ ไม่ใช่ให้น้อย)   สอบเข้ารับราชการในหน่วยงานที่ดี และที่สำคัญงานพี่ก้าวหน้าไปไกลกว่าพี่น้อง พี่สาวรับราชการก่อนพี่ตั้ง 13 ปี ยังตามพี่ไม่ทันเลย  สุดท้ายพี่ก็เป็นคนที่เลี้ยงแม่ + รับภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน + เลี้ยงพี่สาวพิการ 1 คน + ซื้อของเข้าบ้านทุกอย่างชนิดที่ว่าในบ้านมีของกินของใช้บริบูรณ์จนแม่ไม่ต้องออกไปนอกบ้านเพื่อหาซื้ออะไรเลยแต่ก็ยังมีเงินเดือนให้ด้วย ช่วงแม่ป่วยพี่ก็ดูแลมากกว่า "ลูกรัก" คนอื่นๆ คือ อยากกินอะไรบอกมาหาให้ แม่ทำสกปรก ( อึ+ฉี่ ) พี่ดูแลในขณะที่บรรดาลูกรักของแม่เบือนหน้าหนี   และพี่ก็ดูแลแม่จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต ( 14 ปีเศษ )  ซึ่งพี่มั่นใจว่าแม่พี่รับรู้ตรงนี้ และคงรู้สึกผิดต่อพี่เหมือนกันกับสิ่งต่างๆ ที่เคยทำกับพี่ไว้ เพียงแต่คงไม่กล้าจะแสดงออก แต่พี่ก็ไม่ได้เรียกร้อง เพราะการที่เราก้าวไกลและทำให้เขาได้ขนาดนี้เป็นการเรียกศักดิ์ศรีของเราคืนมาแล้ว และได้บุญด้วย ดีกว่าไปโกรธแค้น เพราะยังไงก็คือบุพการี จขกท.เองก็อย่าโกรธแม่นะคะ มันบาป

อยากให้จขกท.ลองฮีดสู้ดูค่ะ อายุ 27 ไม่แก่เกินกว่าจะหางานทำหรอก พี่เองก็เข้ารับราชการตอนอายุ 26 หรือถึงแม้งานเอกชนก็ถือว่า 27 ปีไม่ใช่อายุที่มากเกินไปหรอกค่ะ อย่าเลือกงานแล้วกัน บางทีงานแรกอาจไม่ใช่งานที่เราพอใจแต่อย่างน้อยจะทำให้เรามีประสบการณ์และได้เข้าสู่สังคมการทำงาน ได้เรียนรู้การปรับตัวด้วยค่ะ ยังไงให้ได้งานก่อน จะได้เลี้ยงตัวได้ในระดับหนึ่ง ถ้ายังไม่ชอบงานแรกก็ทำไปพร้อมกับมองหางานใหม่ไปพลางๆ พอมั่นใจแล้ว + แวดวงกว้างขวางมากขึ้นแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  สู้ๆ ค่ะ

 

เป็นกำลังใจให้น๊า  เราก็เคยเป็นนะ อารมณ์เเบบเนี้ย