How To : แสงสีม่วงในคืนเหน็บหนาวที่แสนสนุก// Auroral Purification By maycry999

สวัสดีจ้า สาวๆชาวจีบัน

ก่อนมาแต่งสวยกัน

มาดูหน้าตาอิฉันก่อน

อ้ะ รู้นะว่าตกใจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ไปดูอุปกรณ์กันดีกว่า

อุปกรณ์

1. Palette blush
2. Palette lipstick
3. Palette eyeshadow manly 120
4. TCW Shimmer powder
5. แป้งเอสเต้ AeroMatte 4W สี DEEP WARM
6. รองพื้นเอสเต้ : Nutritious vita-mineral makeup SPF10
7. แป้งฝุ่นรอลีออล
8. The face shop base : เบสม่วง
9. Palette concealer
10. BB cream Lohashill
11. กาวติดขนตา
12. เทปใส
13. ลิปกลอส MNY maybelline No. 473
14. แปรงคาบูกิ maybelline
15. แปรงแต่งหน้า
16. Eye liner Essence
17. เพชรติดเล็บ
18. ขนตาปลอมสองขนาด หนาและบาง
19. skincare lancome Genefique taster
20. Glitter powder
21. N.Y.C waterproof mascara
22. Benefit lip plump

ล้างหน้าด้วยโฟมเสร็จ

ใช้ผ้าขนหนูซับๆเบาๆอย่าถูแรงๆ

เดี๋ยวริ้วรอยถามหาก่อนวัยนะเออ

ทาครีมบำรุงแตะๆทุกจุด เกลี่ยให้ทั่ว

เมย์ใช้ลังโคม GENIFIQUE ทาก่อนลงเบส

ชอบที่เนื้อลื่นๆทาแล้วสดชื่นผิวเรียบลื่นดี ชอบๆ

แล้วทาย้อนรูขุมขนขึ้นไป ครีมจะไปปิดรูขุมขน

แถมยังทำให้หน้ากระชับขึ้นด้วยนะ

แล้วรอให้ครีมมันซึมสักพักแล้วค่อยลุยต่อจ้า

ต่อด้วยลงเบสม่วงเฉพาะจุดบางๆ

ที่หน้าผาก, โหนกแก้ม, สันจมูกและคาง

เป็นการไฮไลท์ไปในตัวด้วย

รอให้เบสเซ็ทตัวสักสองถึงสามนาที

แล้วค่อยลงรองพื้นจ้า

ทำเฉดดิ้งด้วยรองพื้นสีเข้ม

แค่ข้างแก้มเป็นแนวจนเกือบถึงมุมปากทั้งสองข้าง

และข้างสันจมูก

ผสมรองพื้นกับบีบีครีม

ทาแค่บางจุด ที่สันจมูก, หน้าผาก, คาง และโหนกแก้ม

เบลนๆให้เนียนกะที่เฉดดิ้งไว้

ทิ้งไว้สักพักให้รองพื้นเซ็ทตัว

จิ้มคอนลงที่รอยสิว ข้างปีกจมูก มุมปาก ใต้ตาและใต้ริมฝีปากล่าง

เกลี่ยแล้วกดเบาๆจนเนียนไปกะรองพื้น

ใช้แปรงคายบูกิแตะๆแป้งแล้วทาวนๆให้ทั่วหน้า

อย่าลืมคอด้วยนะจ้ะ เดี๋ยวหน้าลอยเวลาถ่ายรูป

อ่ะ ได้หน้าเนียนๆครบขั้นตอนแรก

ต่อไปเราก็มาต่อกันที่ตา ไฮไลท์ของฮาวทูนี้ละจ้า

ใช้สก้อตเทปใส หรือเพื่อนๆจะเอาเทป

ที่โรงพยาบาลที่เค้าเอาติดแผลก็ได้

แต่ไม่แนะนำให้เอาเทปติดท่อประปามาแปะนะคะ

เพราะมันจะติดรองพื้นกะแป้งเราออกหมดเพราะมันเหนียว

แปะให้ตีมุมประมาณ 45 องศา

สีแรกจิ้มสีฟ้าสว่างทาครึ่งของเปลือกตา

( ผิว จขกท คล้ำเลยออกมาเป็นสีฟ้าคล้ำๆ)

จิ้มสีม่วงเข้มเนื้อแมทบริเวณรอยพับของเปลือกตา

ลากยาวไปที่หางตา

แล้วเบลนให้สีฟ้ากะสีม่วงกลืนตรงรอยต่อของสี

จิ้มสีชมพูระบายเหนือสีม่วงแล้วเบลนให้กลืนกะสีม่วง

เป็นการไล่โทนสีให้ซอฟท์กัน สีจะได้ดูไม่โดดเกินไป

จิ้มสีเขียวทาใต้ตา

ใช้สีดำทาย้ำไปที่หางตาและรอยพับตาแล้วเบลนให้ฟุ้ง

ก็จะได้ตาที่ดูลึก มีมิติมากขึ้น

กรีดตาด้วยไลน์เนอร์สีดำให้หางยาวไม่เชิดมากทั้งบนและล่าง

ใช้สีดำเขียนคิ้วและระบายตาล่าง

แต่อย่าระบายจนมิดให้เห็นสีเขียวด้วย

ดัดขนตาปัดมาสคาร่าทั้งบนและล่าง

ใช้กลิตเตอร์สีม่วงแปะๆที่เปลือกตา

ได้ตาแว้บว้าบแระ

ติดขนตาปลอมแบบหนาลงไปบนเปลือกตาบน

ขนตาปลอมบางตัดครึ่ง ติดที่ขอบตาล่าง

เสร็จขั้นตอนการทำตาแสงออร่าสีม่วง

และเราก็ได้ตางามๆแล้วววว

แก้มใช้สีชมพูเหลือบแดงปัดแค่บางๆ

ดูมีเลือดฝาด

อยากให้ดูมีประกายรอบๆดวงตาเหมือนดาวที่อยู่บนฟากฟ้า

ติดเพชรลงไปที่หางตาและหัวตา

ไฮท์ไลท์สีขาวชิมเมอร์ที่โหนกคิ้วและหัวตา

ให้ตาดูเปล่งประกายแสง

ไฮท์ไลท์ด้วยชิมเมอร์แบบผงละเอียด

ที่หน้าผาก, โหนกแก้ม, สันจมูกและคาง

ทีนี้เราก็ได้หน้าวิ้งๆละ

มาต่อกันที่ขั้นตอนสุดท้ายท้ายสุด

ปากอันบานๆของอิฉัน

ลงเบสแต้มสี่จุดเกลี่ยแล้วกดๆเติมเต็มร่องลึกที่ริมฝีปาก

มันช่วยทำให้ปากอวบอิ่มขึ้น

กลบสีปากที่คล้ำให้พร้อมเติมสีสันใหม่ลงไป

แถมยังทำให้สีลิปติดทนขึ้นด้วยนะ คอนเฟิร์ม

แล้วลงกลอสนู้ดวิ้งๆ MNY No. 473 ลงไป เป็นอันเสร็จพิธี

พร้อมไปออกล่าเหยื่อ อุ้ยยย ไปปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้

ด้วยสีสันเหมือนแสงอะรอร่าที่อยู่บนตาคู่งามๆ

ก่อนจะไปปาร์ตี้ขอเซ็ทเสื้อผ้าหน้าผมก่อนนะ

จากฟากฟ้าอันมืดมน

ยังมีลำแสงหนึ่งซึ่งน่าพิศวงกับที่มา(ที่บ้าน)ที่ไป(ที่ปาร์ตี้) ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

อันมาสู่ที่มาของสีสันบนใบหน้าที่เปล่งประกายสีม่วงเขียว เหมือนกับแสงอะรอร่า

ง่ะไปต่อไม่ได้แว้ววว เกริ่นพอแค่นี้ละกัน สามีรอแว้ววววว ไปละค่ะ

Ba -Bye