ประสบการณ์คนเพิ่งเริ่มจัดฟัน (วิทยาทานของคนอยากสวย..แต่ใช้เวลา^^)

สวัสดีสาวๆ ตอนใกล้เช้านะค่ะ มีใครอยู่เป็นเพื่อนกันบ้างยกมือขึ้นเร้วววว.....(อย่าเพิ่งหาวค่ะ)

เราเป็นคนนึงที่รักสาว+งาม ม๊ากกกก

ถึงขนาดจะไปศัลยกรรมกันเลยทีเดียว แต่ตอนนี้กำลังเริ่มดัดฟันค่ะ

ต้นกำเนิดมาจากรุ่นพี่ที่ทำงานบอกว่า *แก...ดัดฟันแล้วหน้าตาจะดีขึ้นนะ จมูกหน่ะ ไม่ต้องไปทำหรอก

เด๋วดัดฟันเสร็จก็สวยแล้ว*         โอว...จอร์ช จิงรึนี่?!!!

บวกกับหลายเดือนก่อนไปหาคุณหมอฟันแล้วคุณหมอให้ลอง X-RAY ฟันดู ปรากฎว่า...

โอ้โห...ฟันกรามในสุดด้านบนนอนมาเลยค่ะ 45องศาฟาเรนไฮ (ก็ว่าไป55+) ดันชาวบ้านเค้าออกมากันหมด

คุณหมอเลยบอกว่า ลองไปหาหมอฟันเฉพาะทางด้านการจัดฟันดูไหม?


ถ้าไม่มีชื่อตามในลิงค์นี้ไม่แนะนำอย่างแรงค่ะ คือ คุณหมออาจจะอบรมมาแต่ไม่ได้จบมาโดยตรงอ่ะค่ะ 
                                            (เราว่าเอาความสะบายใจดีกว่านะ)

กว่าจะหาร้านถูกใจก็คุยกับอากู๋(เกิ้ล) อยู่นานพอสมควรทีเดียว ตอนแรกก็อยากได้ที่ที่ใกล้ที่ทำงาน (เพราะชีวิตมีแต่ที่ทำงาน..เฮ้ออ)

อุตส่าไปหา...ปรากฎว่า คลีนิคที่คิดว่าใกล้+ค่อนข้างดีกลับกลายเป็น (ลองนึกตามบทสนทนาเรานะค่ะ)

ณ คลีนิค A (ขอบอกแค่คลีนิคนี้อยู่แถวสนามบินสูวรรณภูมินะค่ะ เราทำงานที่สนามบินค่ะ)

เรา : เอ่อ..พอดีอยากสอบถามเกี่ยวกับการจัดฟันค่ะ พบคุณหมอได้เลยไม๊ค่ะ

ซิ่มที่เค้าเตอร์คลีนิค A : ไปพิมพ์ฟันๆ เด๋วที่ร้านให้ใบส่งตัวไปพิมพ์ที่โรงพยาบาลใกล้ๆ ได้ฟิล์มแล้วค่อยมาหาหมอ

เรา : อ้าว..พบคุณหมอเพื่อConsult (ปรึกษา) ก่อนไม่ได้หรอค๊ะ? พอดีไม่ทราบรายละเอียดเลย

ซิ่มคนเดิม : พบไม่ได้ ไม่ได้นัด วันนี้หมอไม่เข้า ถึงหมอเข้าก็ต้องดูคิวรอนานนนนนนน แล้วไม่มีฟิล์ม หมอจะรู้ได้ไง

เรา...... ตูไปดีฟ่า

***********************

คิดดูดิค่ะ น่ากลัวไหม? เจอที่แรกถึงกะงง จัดฟันไม่เหมือนฉีดโบท็อกหรอฟร๊ะ? ตอนช้านฉีดโบท็อกหมอยังต้องดูหนังหน้าเราก่อนเลย

นี่จัดฟันเสียตังเป็นหมื่น ทำกันเป็นปี พูดเหมือนเล่นขายของงี๊ไปดีฟ่าจากการเสียเซฟครั้งแรกทำให้ต้องทำการบ้านหาร้านเพิ่มมากขึ้น

คราวนี้หาใกล้บ้านบ้าง - - บ้านเราอยู่แถวรัชโยธินค่ะ

เราได้มา 2 ที่ค่ะ ที่แรกตรงข้าม ม.เกษตร อีกทีตรงข้ามโรงพยาบาลเมโย(เลยเมเจอร์รัชโยธินมา1ไฟแดงค่ะ)

เราเลือกที่ที่2ค่ะ ที่นี่ชื่อ คลีนิคฟันดี (เอ...บอกได้ไม๊น๊า?)

เหตุผล...ใกล้กว่า และอีกอย่างคือ ไม่ต้องจ่ายเป็นก้อนค่ะ ที่แรกนี่วันติดเครื่องมือจ่ายทีเดียวเลย20000 (มั๊งนะค่ะ) โหดไปค่ะ

ครั้งแรกที่เข้าไป...ร้านเล็กๆแต่น่ารักค่ะ รอแป๊บเดียวก็ได้พบคุณหมอ คุณหมอก็ถามไถ่สักพัก จะเอายังไง กลับไปปรึกษาที่บ้านก่อน

                             ก็ได้ แล้วค่อยมาบอกกันว่าจะเริ่ม เออ...รู้สึกไม่กดดันดี เลยบอกคุณหมอไปว่าตกลงเลยค่ะ ^^

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ สำหรับตัวเรานะค่ะ....X-RAY ฟัน+พิมพ์ฟัน 2000 บาท (ที่ร้านนี้ทำเองเลยค่ะ ไม่ต้องส่งไปที่โรงพยาบาล)

                            เริ่มเคลียช่องปากก่อนจัดฟันก็จะมี ถอนฟันคุด 1 ซี่ 1500 บาท (O.O แพงเว่อๆ)  เราลองถามคุณหมอแล้วว่า
                  
                            ขอไปถอนโรงพยาบาลที่บริษัทเรามีสัญญาอยู่ได้ไม่จะได้ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ หมอบอกว่ามันไม่ต่อเนื่อง บลาๆๆๆๆ

                           (โอเครค่ะ หนูทำที่นี่?!!!)

                            อุดฟัน 2 ซี่ 1600 บาท ถอนฟันธรรมดา (ซึ่งคือฟันดีของเราเนี่ยแหละค่ะ) อีก 8 ซี่ (O.O) ซี่ละ 500 บาท

                            ถึงจุดนี้เพื่อนๆอาจจะสิ้นสติว่าต้องถอนขนาดนนี้เลยรึ? ขึ้นอยู่กับฟันเราค่ะ คุณหมอจะดูเอง เพื่อนเราไม่ต้องถอนก็มี

                             ถอน 4 บ้าง 5 บ้าง เราเยอะสุดเพราะ มีฟันน้ำนม(ยังอยู่จิงๆค่ะ อายุปาเข้าเบญจเพศแล้วเนี่ย) + ฟันเขี้ยวอีก
 
                             (ขณะพิมพ์ยังนั่งร้าวร้านเล็กน้อยอยู่เพราะเพิ่งถอนมา3ซี่สุดท้ายเมื่อวานค่ะ) 
 
ต่อไป.....................อาทิตย์หน้าคุณหมอนัดไปขูดหินปูน + ใส่ยางแยกฟันกรามแล้วค่ะ ค่าขูดหินปูน 800 บาท 
                               (ใส่ยางต้องเสียตังป่าวไม่รู้จิงๆค่ะ)

หลังจากนั้น.............อีก 1 อาทิตย์ ติดเครื่องมือ บน+ล่างพร้อมกันเลย จ่าย 2200 บาท เดือนต่อไปจ่าย 2000 x 18 เดือน

                                ทีเหลือ เดือนละ 1000 บาท (ทั้งหมด 45000 บาท รวมรีเทนเนอร์ 1ชิ้นค่ะ)

สำหรับเรา เราว่าเลือก..ที่ที่สะดวก ใกล้ วิธีการจ่ายเงินและราคาไม่แพงเกินที่เราจะรับได้นะค่ะ เด๋วนี้ตัวเลือกเยอะค่ะ 

เฮ้อ...เล่ายาวอีกแล้ว สาวๆง่วงกันเลยไม๊ค่ะเนี่ย อยากให้คนที่กำลังสนใจจะดัดฟันได้ทราบข้อมูลคร่าวๆค่ะ

เพราะตอนเราก็หาพอสมควรเลยทีเดียว

ปล..ถ้าเพื่อนๆคนไหนจัดฟันอยู่แล้วมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังมั้งนะค่ะ เราเล่าได้เฉพาะเท่านี้ยัง(ความรู้น้อยนิดค่ะ)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะค่ะ ไปนอนดีฟ่า บ้าบ บาย รักษาสุขภาพกันนะค่ะทุกคน ^^