ทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดี เพื่อนๆคนไหนมีเพื่อนขี้โกหกไม๊

...... คือมีเพื่อนอยู่คนนึงเธอเป็นคนจัดว่าสวย หุ่นดี ขาวออร่า  ชอบยิ้มถักทายและดูเป็นมิตรกับทุกคนไปอ่า

ครั้งแรกที่เจอหล่อน ดูเฟรนลี่มากมาย แต่มันมีปัญหาอยู่ว่าหล่อนตอแหลเก่งเหลือเกิน

ตอแหลมากมายก่ากองจริงๆนะคะ ตั้งแต่เกรดสมัยเรียนมัธยม  คือที่แรกหลอนก็บอกว่าหล่อนมาจากโรงเรียนดังและอยู่ห้องคิงมาโดยตลอด เกรดที่จบก็ 3.8 กว่า  ฮืมมมมมม  เก่งจังเลยเธอ.......(ตอนนั้นคิดในใจ)มิหน่ำซ้ำ หลอนก็สอบติดวิศวม.เกษตร สอบติดเถสัช อีก และอีกเยอะแยะมากมาย  มากว่านั้นยังบอกอีกว่าพ่อเป็นอธิการมหาลัยๆนึง ซึ่งดีกว่าที่เธอและเราเรียนตอนนี้  ไอ้เราก็ถามว่าเก่งขนาดนี้เล้นก็ใหญ่ซะขนาดนั้นทำไมไม่เรียนม.ที่พ่อเป็นอธิการล่ะ  หล่อนก็ว่าอยากอยู่ห่างบ้าน..... อ่านะ ก็ฟังดูเแม้งๆชอบกลๆ อีกทั้งยังบอกว่าที่บ้าน ขายทอง มีโรงไอติม สารพัดสารเพอ่า  อ่าน่ะ
ตอนนั้นไอ้เราก็เชื่อ เพราะเธอดูผู้ดีจริงๆ แถมบอกว่ามีรถยนต์ยี่ห้อดังขับไว้ไปกลับบ้าน กับที่ม.  ดูชีวิตเธอเลืศหรูอลังการยิ่งกว่านั้นเพราะเธออบอกว่าว่าแฟนเธอหล่อขาวตี๋....แถมเป็นทนายอีกนะคะ  แถมหลอนยังบอกว่าซื้อนาฬิกาให้แฟนเป็นหมื่นๆ    ไอ้เราก็คิดรวยจริงๆนะเนี่ย  และอีกมากมายที่สารพัดจะอวดโอ้ ตั้งแต่บอกว่าโมเดลลิ่งมาติดต่อตอนไปสมัครไทยซุปเปอร์ โมเดล  แถมหลอนยังเข้ารอบสามสิบคนสุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิลด์อีกแต่กลับสละสิทธิ์เพราะอ้างว่าพ่อเป็นห่วงเรื่องการเรียน มือ ถือก็บีบีอันนี้เราก็คิดหลายคนก็ใช้หลอนคงไม่สตอหรอกนะ .....ตั้งแต่วันแรกเราก็ไม่สงสัยว่าเธอจะโกหกอะไรเลย.  และคิดว่าเธอเป็นเพื่อนจิริงๆอ่าค่ะ จนมาวันนึงเรากับเพื่อนเริ่มรู้สึกอึดอัดจากพฤติกรรมของหลอน คือเราเรียนคณะถาปัต  มันก็มีงานปฏิบัติในชั่วโมงมากมาย      ซึ่งหล่อนก็มาช้ามากๆ อย่างอาจารย์เดดไลน์4โมงเย็นหล่อนก็จะมาสัก3โมงแล้วก็มานั่งๆโอ้เอ้ๆ แล้วก็ไปบอกให้คนนั้นคนนี้มาดูงานให้ มาช่วยสอนให้มั่งเป็นหล่อนก็จะบอกว่า  ทำไม่เป็นไหนทำให้ดูหน่อย  แล้วสุดท้ายก็บอกว่าแกมาทำให้เลยดีกว่า ทั้งที่งานเรากับเพื่อนยังค้างอยู่เลย   เธอจะพยายามหาข้ออ้างให้คนอื่นเขียนแบบ หรือทำงานให้ตลอด  ในขณะที่คนอื่นทำงานให้หล่อนก็ไปพบปะทักทาย และพูดคุย กับเพื่อนคนอื่นโยไม่สนใจงานเลย บ้างครั้งก็อ้อนวอนให้เรารอเธอเป็น3-4ชั่วโมงโดนที่หลอนนั่งเล่นนั่งเขี่ยๆงานไม่ทำอะไรสักอยู่เป็นชั่วโมง  เวลาที่หล่อนชวนเราไปนู้นไปนี้ และเราก็ติดร่างแหไปนั้นหล่อนจะให้เราไปเป็นเพื่อนทุกที่...ย้ำว่าทุกที่จริงๆนะ บางที่เรานักแฟนไว้กินข้าวเย็น2ทุ่ม หล่อนก็เราไปจนเวลา3-4ทุ่ม ทั้งที่เราบอกว่าเรารีบแค่หล่อนก็กับยืนรอพนักงานไปเช็คบาร์โค้ดลูกชิ้นลดราคาเน่าๆ เป็นชั่วโมงๆ แถมยังไปดูเครื่องสำอางค์ต่อเป็นชั่วโมง โยใช้เวลาในการดมกลิ่นครีมอาบน้ำแค่อย่างเดียว..................เฮ้อ   ตอนนั้นเราก็เข้าใจว่าเธอต้องการเพื่อน  เธอเป็นอย่่างี้ประมาณสองเดือน ไม่ทำงานเอง มาสาย มากไม่มีเรียนเลคเชอร์    .......ให้คนอื่นรอเป็น3-4ชั่วโมง   ทุกๆอย่างทำเป็นกิจวัตรประจำวัน  แถมยังโกหกเพื่อนว่ามาเรียนเลคเชอร์  โกหกว่าไปติวกับเพื่อน โกหกว่าไปฟิตเนสกับเพื่อน โกหกว่าทำงานครบแล้ว โกหกว่าได้ตังอาทิตย์ละห้าพัน
โกหกว่าเคยไปจีน  โกหกว่าเคยไปเมกากับดาราชื่อดังคนหนึ่งตอนสมัยเรียนร.ร.เดียวกัน.......   และโกหก และโกหก ทุเรื่องค่ะ ทุกคำที่ออกจากปากเธอล้วนแล้วแต่โกหก     ที่เราจับได้คือพอดีหล่อนบอกหล่อนไปติวกับเพื่อนอีกคนนึงปต่เพื่อนคนนั้นบอกว่าหล่อนไม่เคยมา........  จนกลุ่มเพื่อนเราเริ่มสังเกตและก็พบว่าหลอนโกหกไปหมด  เรื่องว่าพ่อเป็นอธิการ นั้น  หล่อนแถไปบอกว่าพ่อหล่อนทำงานที่ตึดอธิการ เราเข้าใจผิดเอง.......... อ่านะ เรื่องรถก็พอดีเพื่อนอีกคนไปเห็นจะๆเลยว่าหล่อรบอกว่ารถคนนี้ล่ะรถของหล่อน จอดไว้ที่ตรงลายจอดรถที่หอเพื่อนก็เชื่อนะ ก็ไปรับหล่อนออกไปซื้อของด้วยกัน แต่พอกลับมาพร้อมกันกับหลอน ....................ปรากฏว่ารอดมันหายไปจากโรงจอดรถแล้ว ...................เอ่อเจ้าของก็ไปด้วยกันแต่รถเลื่อนไปเอง เหอะๆๆ แล้วเรื่องติดสามสิบคนสุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิล์ดก็อีก  สรุปไปอ่านชื่อในเวบติดคนที่ร้อยกว่าเกือบสองร้อย  หึหึ  มิน่าล่ะ .....เรื่องเกรดก็โกหกค่ะไปดูระเบียนประวัติมาได้หนึ่งกว่าๆเอง เลขหนึ่งเป็นทิวแถว
แล้วที่มันสุดจะทนก็คือตอนทำไฟนอลโปรเจคหล่อนไม่ชวยเพื่อนทำงานเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เพื่อนนัดล่วงแล้วกลับไม่มา และบอกว่าเพื่อนว่าไปประกวดไทยซุปเปอร์โมเดล แต่กลับบอกเพื่อนอีกคนและอาจารย์ว่าไปงานศพญาติ และพอมาพูดอีกที่กับเป็นงานศพแหนเพื่อน ......................................  ซึ่ง เอ่อ  ทำเป็นไม๊ ที่ไม่ช่วยเพื่อนงานไฟนอลโปเจค    และต่อมายังเอางานเพื่อนไปถ่ายเอกสารแล้วเพื่อนก็โทรตามเป็นร้อยๆรอบ จิงๆนะไม่ได้เวอร์เพื่อนโทรหากันกระหน่ำแต่หล่อนกลับไปอยู่บ้านเพื่อนอีกคนและปิดโทรศัพท์หนีจนถึงตีสามถึงเอางานมาให้เพื่อน ซึ่งงานต้องส่งตอนนเช้า  แล้วยังมีหน้ามาถามเพื่อนว่า ยังไม่ทำอีกหรอ ทำไมไม่ทำล่ะ  โหยมันน่านัก....... แล้วปรากฏว่าตอนนที่มันไปอยู่บ้านเพื่อน คือมันใช้เพื่อนทำงานจนถึงตีห้าแล้วตัวเองก็ไปนอนที่ของเค้าปล่อยให้เค้านอนบนโต๊ะคอม   พี่เจ้าของบ้านเค้าบอกว่าที่จริงหล่อนไปเข้าห้องน้ำตั้งหลายรอบ แต่ไม่เรียกเพื่อนมานอนด้วยเลย.....  ใจดำมากๆค่ะ แล้วเพื่อนก็อตส่าห์ไปส่งงานให้ไม่คิอตังสักแดงเดียว
..... แล้วต่อมาหมวกกับแว่นเพื่อนที่ทำงานให้เธอก็หายซึ่งเพื่อนบอกว่าหาซื้ออยากมากกว่าจะได้และหล่อนก็คือผู้ต้องสงสัย ไม่มีผุ้ใดเข้าออกบ้านหลังนั้นนอกจากหลอน .......................

..... สุดท้ายด้วยความที่เพื่อนทุกคนทนไม่ไหวค่ะเลยต้องไปพิสูจน์โดยทำที่เป็นว่าไปนั่งคุยกานที่ห้องหล่อน แล้วให้หล่อนกับเพื่อนอีกไปซื้อของกิน แล้วให้เรากับเพื่อน ค้นห้องหล่อน..... (ฮี่ๆๆๆๆ อาจนี้อาจดูเหมือนเป็นขโมยเองแต่มาจับขโมยนะค๊า)..และปรากฏว่าเปิดเข้าไปตู้หล่อนปุ๊บ.............หมวกค่ะพี่น้องหมวกเพื่อนคนนั้นจริงๆ   แถมแว่นอีก แว่นก็เสียบหาที่หน้าอกหล่อน พอค้นต่อไปเราก็ช๊อคอีก พู่กันที่หายไปนานของเราเองซึ่งราคาก้แพงอยู่หลอนเอาไปหมดเลยทุกเบอร์  แถมกระดานวาดรูปเพื่อนอื่นอีกมากมายก่ายกองที่ห้องเธอ  และงานที่เพื่อนส่งไปแล้วไม่ได้คืน อีหหนึ่งถุงใหญ่ ถาดสีอีกเป็นโหล....... ปากกาไฮไลท์สามชุดใหญ่ย้อห้อเดียวกันยังไม่ได้แกะกล่อง กระจกที่ติดชื่อเพื่อน งานที่สิดของพวกพี่ๆอีกเป็นกอง...........โมเดลบ้านของคนอื่นเป็นสิบๆ บีบีของเธอก็ของปลอมแล้วมาบอกว่าแท้..............พอถมยืมรถก็บอกว่าพี่ยืมไปทั้งปี   ตอนนั้นเราสึกว่าของในห้องหล่อนแทบจะไม่มีชิ้นไหนเลยที่ซื้อเองไม่ได้ซื้อ  ขโมยมาทั้งนั้นขนาดรองเท้าขาดๆไซสืเล็กกว่าเท้าเธอสักแปดเบอร์เธอยังเอามากองๆรวมกันไว้ มันมากจริงๆค่ะจนเขียนบรรยายไม่หมด ยังมีเรื่องโกหกเรื่องโขมยของเป็นร้อยๆเรื่องที่ยังไม่เล่า เล่าไม่หมดจริงๆค่ะ 
   
....................เมื่อวานทุกคนทนไม่ไหวเลยเปิดใจกันคิดว่าเธอจะยอมรับและเราจะพาเธอไปรักษา   แต่เธอก็มียอมรับขนาดเพื่อนที่มันขโมยกับแว่นไปยืนอยู่ตรงนั้นมันยังไม่ยอมรับและยืนยันว่าไม่ได้โกหกอะไรเลย..................ถึงขนาดว่าเราบอกว่าถ้าไม่พูดความจริงจะเสียเพื่อนทั้งกลุ่มไปหล่อนก็ไม่ยอมรับสักเรื่อง  ...............................  และยังยิ้มร่าเริ่งและยังพูดว่ารักเพื่อนและไม่รู้ว่าทำอะไรผิด ........จนเรทุกคนลุกออกมาจากโต๊ะเพราะคิดว่าไม่ไหวแล้ว ผู้หญฺิงคนนี้เกินเยียวยา  ........................  หล่อนถึงสารภาพว่าแว่นตานั้นเป็นของเพื่อน.......................  แต่ถึงวินาทีนั้นคือหล่อนถูกกดดันจึงจำเป็นต้องพูด        แต่ยังโกหกต่อไปว่าไม่เคยโกหกเรื่องอื่นเลยแม้แต่น้อย

ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไงค่ะเราแค่อยากให้ยอมรับเอง อยากได้ความจริงใจจากเพื่อน .............. แต่นี้มันไม่ใช่เธอไม่ยอรับเองเลย...............................  เหนื่อยมากกับคนๆนี้     แล้วพอมาเจอวันนี้ก้ยังทำเป็นไม่เกิดอะไรขึ้นเสแสร้งมากมายค่ะ ไม่ได้สำนึกเลย   เธอยิ้มให้ตลอด ................ แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นไม่รู้มีอะไรอยู่  เสียความรู้สึกมาก  เราและเพื่อน ดูแล และช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด แต่ทำทำอย่างนี้ขโมยของเรา โกหกเรา  เพื่อนคนไหนเคยเจอแบบนี้ช่วยบอกที่ทำไงดีเราไม่อยากจะพูดด้วยแล้วไม่อยากเจแแล้ว ผิดหวังและเสียใจมาก

Discussion (23)



มีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วยหรือคะเนี่ย เหมือนเธอมีปัญหาทางจิตเลยนะ พูดจริงนะเนี่ย สุดๆจริงๆไม่เคยเจอ
เราก็มีเพื่อนแบบนี้ค่ะ แบบ สตอแบบนี้เลย เรื่องก็ ยาวมากมาย คบกะมันตอน ม.4 ยัน ม.6

แหลตลอดเลยค่ะ แถมเป็นพวกชอบสร้างภาพพจน์ให้คนอื่นคิดว่าตัวเองดูดี อวดร่ำอวดรวย

(แต่พอมีคนไปบ้านนะแบบว่า................)

ตอนนี้ ก็ ออกจากกลุ่มไปเรียบร้อยแล้วค่ะเพื่อนคนนั้น เพราะโดนเืพ่อนในกลุ่มเดียวกันแบนให้ออก

เป็นกำลังใจให้นะคะ แนะให้ว่าอย่าไปยุ่งจะดีกว่า คบกันแบบผิวเผินก็โอเคแต่อย่าถลำลึกน่าจะดีกว่านะคะ


 นั่นสิคะ คนแบบนี้แปลกนะ ไม่เป็นที่ในยอมรับในสังคม แต่ก็มักจะอยู่ได้ เราก็มีเพื่อนนิสัยแย่ๆ งี้เหมือนกัน คนนึงนะ เอาเปรียบชาวบ้านตลอดเวลา พอเวลาโดนแบนแล้วทำหน้าเศร้า เข้ากลุ่มอื่นไป นางเอกตลอด จนตอนนี้กลุ่มใหม่เค้าก็ไม่อยากจะเอา แต่ใกล้จะเรียนจบละก็ คงช่วย ๆกันไปมั้งคะ กับอีกคนนะ เรียนเก่งขั้นเทพเลย ใครๆ ก็คิดว่าจะนิสัยดี ไปๆ มาๆ เอาแต่หนีงาน สร้างภาพให้อาจารย์ประทับใจ แล้วก็แทงข้างหลังเพื่อนโดยการชอบแอบไปคุยกับอาจารย์เนียนๆ เงียบๆ เพื่อผลประโยชน์อะไรซักอย่าง แรกๆ ไม่มีใครรู้นะ แต่พักหลังมานี่ เรามีธุระต้องไปคุยกับอาจารย์บ่อย เลยเพิ่งจะรู้


สรุป บุคคลเหล่านี้ มีทั่วไปในโลก สังคมมักจะรังเกียจ แต่ก็สามารถอยู่ได้ต่อไปในสังคม โดยที่ไม่รู้สึกแย่ (คนที่แย่ก็คือพวกเราๆ ที่มาตอบกระทู้กันนี่แหละ) หรือคิดว่าจะต้องปรับปรุงตัวเอง (มึนนั่นเอง)
เขามีปัญหาทางจิตรึเปล่าคะ

อันนี้พูดจริงๆนะ - -"  

 ตบเล๊ยยย!!!