มาร์คหน้า ขัดหน้า กับ สครับหน้า ต่างกันยังไงคะ?

เหมือน คห.1 ค่ะ

เราว่าเหมือนกันตรงที่มันช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า
สครับใช้ล้างแล้วจะหน้าแห้ง สำหรับเราแล้วจะใช้มาร์คต่อ (มาร์คให้ความชุ่มชื่น)
แต่มาร์คขัดหน้าบางตัวจะช่วยบำรุงด้วย ทำให้หน้าไม่แห้งค่ะ
แต่ทั้งสองตัวนี้ใช้แค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอแล้วค่ะ

จขกท สภาพผิวหน้าเป็นอย่างไรค่ะ
เลือกมาร์คหรือสครับให้เหมาะกับผิวหน้าแระกันค่ะ ลองดูนะคะ ^^

 ความแตกต่างก็ตามคห. 1 เลยค่ะ ^ ^
ที่เราได้ยินมา เราสามารถสครับหน้า เสร็จแล้วตามด้วยมาร์กเลยได้นะคะ
คือหลังจากสครับเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออกแล้ว ผิวก็จะใสเกลี้ยง พร้อมรับการบำรุงจากมาร์กและครีมได้อย่างเต็มที่
โดยส่วนใหญ่ก็จะทำประมาณอาทิตย์ละครั้งอะค่ะ
แต่สำหรับผิวตัว สามารถสครับหรือขัดอาทิตย์ละ 2-3 ได้ แล้วแต่ว่าเราอยากให้ผิวนุ่มขนาดไหน
แต่อย่าบ่อยเกิน เดี๋ยวมันจะขูดผิว กลายเป็นทำร้ายผิวไปแทนนะคะ
ครีมมะขามนี่ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นแบบไหน ถ้าเขาเขียนว่าให้พอกแล้วล้างออก ก็น่าจะถือเป็นมาร์กละมั้ง 
 

การขัดหน้า  กับการสครับหน้า  จะเหมือนกันค่ะ  คือการขัดเอาเซลล์ที่เสื่อมออกแล้วเผยผิวขอเราค่ะ
การขัดกับการสครับเนี่ย  ไม่ควรทำบ่อยเกินนะคะ  เพราะจะทำให้หน้าเราโดน  รบกวนมากเกินไปค่ะ
ใครเป็นสิวก็อย่าทำนะคะถ้าสิวมีเยอะ  เพราะมันจะทำให้สิวผุดขึ้นมามากกว่าเดิมค่ะ

แต่การมาร์คเนี่ย  คล้ายๆกับบำรุงหน้านวดหน้าไรประมานนี้ค่ะ  
คือจะไม่ขัดแต่ทาทิ้งไว้ ทำให้ผิวเราชุ่มชื่นหรือบำรุงตามแต่ละชนิดที่เราเลือกใช้ค่ะ  แล้วมาร์ค ก็มีหลายชนิดด้วยค่ะ  มีทั้ง  มาร์คหน้ากาก  มาร์คที่ลอก  และ มาที่ทา ค่ะ  มาร์คนี่ก็ทำอาทิตย์ละ 2-3ครั้งค่ะ
ไม่ควรถี่เกินไป    สำหรับการทำความสะอาดประจำวัน  น้องจะใช้โฟมล้างหน้าก็ได้ค่ะ 

-ถ้าน้องมีผิวที่แห้ง  ก็ควรจะใช้โฟมที่มีความุมชื้นสูง  และกักเก็บน้ำที่หล่อเลี้ยงใบหน้าได้ดี รวมถึงการใช้ครีมบำรุง ที่มีความชุมชื้นด้วยนะคะ

-สำหรับผิวที่แพ้ง่ายก็ควรจะงดพวกเครื่องสำอางครีมล้างหน้า ครีมบำรุง หรือมาร์คอะไรก็ตามที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  และควรทดลองใช้กับส่วนที่บอบบางเช่นข้อมือก่อนนะคะว่าแพ้รึป่าว

-ผิวมันกควรจะใช้ครีมหรือโฟมที่มีส่วนผสมในการลดความมัน  แต่ไม่ทำลายความชุ่มชื้นของใบหน้านะคะ

-ผิวผสม ก็คือ  หน้าจะมันตรงส่วนทีโซนค่ะ  คือช่วง หน้าผาก จมูก  คาง  อันนี้ก็ควรใช้โฟมเฉพาะของมันนะคะและครีมบำรุงก็อาจจะรุงรังหน่อยคือต้องใช้แยกระหว่าง ช่วงทีโซน(หน้าผากจมูกคาง)กับช่วงยูโซนจ่ะ(แก้ม คาง)  เพราะว่า  ทีโซนจะมีความมันแต่ช่วงยูโซนจะขาดความชุ่มชื้นจ่ะ

ที่เหลือ  ก็ฝากไว้กับ คห  อื่นละกันนะคะ