ท่องเที่ยวหลวงพระบาง ในวันสงกรานต์ 1
ไผ่ไร้กอ17ฮัลโหล เบเบี๋ สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ เมื่อช่วงหยุดยาว 12-16 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสแพคกระเป๋าดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางมา เราเดินทางกันทั้งหมด 7คน เรานัดกันที่โลตัส อ่อนนุช เวลา 16.00
กว่าจะรวมตัวกันครบ ก็กินเวลากันไป เกือบๆจะ 18.00 ถึงจะได้ออกเดินทางกันจริงๆ เป้าหมายของเราคือเราจะขับรถไปจอดไว้ที่หนองคาย แล้วก็ข้ามฝั่งที่สะพานมิตรภาพไทย -ลาว แล้วไปต่อรถที่เวียงจันทร์เพื่อนที่จะได้เดินทางไปหลวงพระบาง ทริปนี้ถือว่าทรหดเหมือนกันในเรื่องของการเดินทาง เริ่มตั้งแต่ออกจากกรุงเทพ ที่ต้องเจอกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นเพราะคนเริ่มทยอยออกจากกรุงเทพเยอะเหมือนกัน เราไปถึงหนองคายประมาณ 04.30 โอวววววว... เร็วเกินคาด ด่านเปิด 06.00 น. ก็ต้องนั่งรอกันไปตบยุงกันไป 555.. ข้ามแดน มาได้ก็ต้องจัดการซื้อ ปี้ หรือตั๋ว คนละ 15 บาท เพื่อไปด่านฝั่งเวียงจันทร์ แล้วก็นั่งรถจากด่าน เข้าไปที่ท่ารถเวียงจันทร์ บรรยากาศตอนเช้าๆ ที่เวียงจันทร์ สดชื่นดีจัง
เดินทางมาถึงท่ารถก็ต้องตกใจ จ๊ากกกกส์ คนเยอะมากกก แล้ว ขนส่งที่เมืองหลวงบ้านเค้ามันก็ เก่ามากๆ เห็นครั้งแรกตกใจไปเลย 555 เพื่อนบอกว่า ถ้าไม่ใช่หน้าเทศกาลคนก็ไม่เยอะแบบนี้หรอก เอ่อ นี่ชั้นติดสินใจไรผิดไปปะเนี่ย
แถมที่นี่ยังไม่รับจองตั๋วด้วยนะ ขนาดจะจ่ายเงินเลยยังไม่ให้จองเลย walk in กัน เท่านั้น เซ็งเลย แล้วเราจะไปหลวงพระบางยังไงกัน จากที่รื่นเริงกันมา พลพรรค ก็เริ่มเซ็งกันแล้ว เพราะเค้าบอกว่าอย่างเร็วสุดก็ได้ขึ้นประมาณ 19.00 น. โอววว ไม่นะชั้นไม่อยากนั่งรอทำใจไม่ได้
พวกเราเลยตกลงใจกัน หารถตู้ไปดีกว่า โชคดีที่มีนามบัตรของทัวร์ที่ลาว เลยพอจะหารถไปได้ โดยตกลง ค่าเดินทางที่ 8000 บาท กับระยะทาง 400 ก.ม ตอนแรก พวกเรายังไม่ตกลง เพระคิดว่าแค่ 400 ก.มเอง ทำไมคิดแพงจัง แต่พอได้เห็นเส้นทางแล้ว ก็รู้เลยที่เค้าคิด 8000 บาท นี่ไม่แพงเกินไปเลย
ระหว่างที่รอรถ ไม่มีไรทำ ก็ถ่ายรูปกันไป รอนานมากก เกือบๆ 1ช.ม ไม่มีอะไร ก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันไป ที่ท่ารถมีอาหารขาย คือเฝอนั่นเอง เราคิดว่าน่าจะเป็นอาหารประจำชาติรึเปล่าเนี่ย เพราะมีขายแทบทุกที่เลย แล้วคนก็นิยมกินมากๆๆ เราก็ไปกดินกับเค้าด้วย แต่ลืมถ่ายรูปมา 555 หิวจัดตาลาย ลืมทุกสิ่งอย่างเลย
เราออกจากเวียงจันทร์กันประมาณ 09.45 น. นั่งดูถนนหนทางกันไป ถนนหลวงที่นี่ เป็นถนนแบบ 2เลน สวน มีท้องทุ่งนามากมาย แต่เราไมได้ถ่าย
นั่งรถไปจนถึงวังเวียง เราก็แวะพักทานข้าวกลางวันกันที่นี่แหละ ที่วังเวียงก็เป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองนึง ที่น่าพัก และน่าเที่ยวมากๆ เห็นเพื่อนบอกว่ามีล่องแก่งด้วย นักท่องเที่ยวที่นี่ก็เยอะพอสมควร พวกเราสั่งอาหารที่นี่กินกัน เราสั่งสปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า แต่หน้าตาของสปาเก็ตตี้ ที่ออกมา มามันไม่ใช่อะ พอชิมแล้วเรายิ่งกรี๊ดดดดด นี่มันเอาสปาเก็ตตี้ มาผัดใส่ไข่ดีๆ นี่เอง เหอๆ
จากที่เราหิวๆ กินไม่ลงเลย เสียอารมณ์สุด 555 แล้วพอสั่งส้มตำไทย บอกไม่ใส่ปลาร้านะคะ พอยกมา ไหงกลายเป็นส้มตำปลาร้าซะงั้น เราเลยถามเค้าว่า เอ่อ เมื่อกี๊สั่งส้มตำไทยไปนะคะ เค้าบอกว่าเนี่ยล่ะค่ะ ส้มตำไทย แล้วเราก็เลยถาม ว่าส้มตำลาว ใส่ปลาร้ามั้ย เค้าก็บอกใส่ปลาร้าเหมือน กัน ฮา
เห็นแล้วเจ็บหัวเลย 555 ส่วนอาหารอื่นก็พอทานได้ อีกอย่างคือน้ำมะพร้าว สั่งน้ำมะพร้าวปั่น แต่ได้เป็นน้ำกะทิปั่น เอ่อ กินแล้วเซ็งกันไป 555
ก่อนออกจากวังเวียง ขอชักภาพไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย บรรยากาศดีมากๆ ชอบที่นี่จัง มีโอกาศต้องไปพักให้ได้เลย
เราเดินทางถึงที่พักประมาณ 19.00 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชม. เป็นการนั่งรถระยะทาง 400 กม. ที่นานสะใจมากๆ เราพักกันที่นี http://www.prabang.com/index.html เป็นเกสต์เฮาส์ที่น่ารัก เดินทางสะดวก แถมอาหารที่นี่ยังรสชาด ดีด้วย อร่อยกินหมดทุกจาน มื้อค่ำของเรามือนี้นี้ จึงเป็นมื้อแรกที่มีความสุขมาก ตั้งแต่เดินทางจริงๆ
ปิดท้ากันด้วยภาพตลาดมืด ที่คืนเเรกเราออกไปเดินสำรวจตลาด ตลาดมืดใกล้กับที่พักของเรามากๆ เราเลยเดินมันทุกวันเลย เก็บข้อมูลก่อนตัดสินใจช้อป ส่วนมากของก็จะเป็นพวกผ้า กระเป๋า ซ้ำๆกันแบบนี้แทบทุกร้าน ดูกันไปก่อน แล้วจะมาช้อปปิ้งต่ และเล่นน้ำสงกรานต์วันต่อไปค่ะ
Discussion (17)
อยากไปมั้ง..ประสบการณ์ชีวิต เอิ้กกกๆ