++
Snowsola9Discussion (9)
โอ้วม.2จะขึ้นม.3 แต่มองหาอาชีพที่ชอบแล้ว วางอนาคตยาวไกลมากเลยนะเนี่ย ชมๆ
เรื่องอยากไปอเมริกาแต่ไม่มีเงิน ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะตัดอันนี้ก่อนอ่ะ เพราะถ้าดิ้นรนไปกู้เงินก็ลำบากพ่อแม่เปล่าๆนะ
ส่วนเรียนเตรียมกับไปทุนสิงคโปร์ ถ้าชิงทุนได้ก็อยากให้ลองดูจ๊ะ ไม่ติดก็ไม่ต้องไป ถ้าติดแล้วเกิดไม่อยากไปก็สละสิทธิ์ซะ ถ้าไปก็จะได้ทั้งภาษาอังกฤษ+จีนด้วยนะ (จะบอกว่าตอนทำงานถ้าได้หลายภาษาจะภาษีดีกว่าคนอื่นมากๆๆๆๆ)
ส่วนสายที่เรียนถ้าอยากให้แม่สบายใจก็เรียนวิทย์ไป แต่จะเหนื่อยเรานิดนึง ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ เกรดที่ออกมาก็บอกแม่เราเองแหละว่าเราเหมาะจะไปทางไหน เหอๆๆ แล้วตอนเอ็นท์มีคณะให้เลือกมากกว่าด้วยนะเออ แล้วเผลอๆเรียนๆไปอาจจะชอบผ่ากบขึ้นมากะได้ ใครจะไปรู้ เอิ๊กกกกก...
สรุปว่าไม่ได้ช่วยอะไรน้องเล๊ยยย "^_^ เอาเป็นว่าพี่เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ต้องเครียด ค่อยๆคิดค่อยๆตัดสินใจนะคะ
สู้ๆๆๆจ้า
ถ้าน้องมั่นใจในสายภาษาจริงก็ขอแนะนำให้เรียนอย่างที่ชอบเลยค่ะ คือถ้ามุ่งไปเลย เราจะได้เปรียบคนอื่นเค้าเลย อย่างจะเรียนฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อะไรแบบนี้
แต่...ถ้าน้องยังไม่มันใจพอ และไม่สามารถขัดใจทางบ้านได้ พี่ว่าน้องเรียนสายวิทย์ไปก่อนก็ได้ พี่เรียนสายวิทย์มาก็คิดว่ามีข้อดีอยู่ตรงที่เราจะมีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์มาสำหรับประยุกต์กับชีวิตประจำวันได้ ไม่มากก็น้อย แล้วแต่ความสนใจเรา (สำหรับพี่มีข้อดีตรงนี้จริงๆ -*- )
แล้วถ้าน้องสนใจด้านไหนระหว่างม.ปลาย หาความรู้เพิ่มเลยค่ะ เช่น วาดรูป ภาษา ฯลฯ ทีนี้พอแอดฯแล้วน้องอยากเรียนอะไรน้องก็เลือกที่ชอบได้
แล้วก็ พี่อยากจะบอกว่า สายวิทย์ไม่ได้หางานง่ายเลยนะคะ TT__TT เพื่อนที่เรียนด้วยกันมา (สายที่เรียนเน้นทำงานโรงงาน) ทำงานไม่ตรงสายบ้าง เรียนต่อบ้าง เป็นแอร์ ไปเลยก็มีนะ
คือทุกวันนี้คิดว่าการที่เรียนในมหาวิทยาลัยเนี่ย เพื่อให้ได้ปริญญาเท่านั้นอ้ะ ต่อไปขอทำงานที่อยากทำแล้วกัน (แต่ที่บ้านก็เตรียมกดดันเรื่องงานอีกระลอก -*- )
แล้วนี่คือมุมมองพี่นะ ตัวพี่เองกับเพื่อนที่คณะ บ่นกันว่าถ้าเราได้เรียนในสิ่งที่ชอบคงมีความสุขงั้นงี้ แต่...พอคุยกับเพื่อนที่ได้เรียนและทำงานในสิ่งที่ชอบแล้ว มันกลับบอกว่า "เมื่อสิ่งที่ชอบมันกลายเป็น "งาน" แล้วมันรู้สึกไม่มีความสุข"
จากข้างบนนี้สิ่งที่จะบอกกับน้องก็คือ "ต้องมีความสุขกับสิ่งที่เราเรียน งานที่เราทำ เพราะถ้าเราไม่มีความสุขแล้ว เราก็จะมีข้ออ้างแบบกรณีพี่กับเพื่อนนั่นแหละ คือ กลายเป็นว่าทั้งคนที่ได้ทำสิ่งที่ชอบ และอีกคนที่ต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบนั้น ไม่มีความสุขทั้งคู่ เพราะต่างมีข้ออ้างให้ตัวเอง" งงๆมั๊ยหว่า?
อ่อ...แล้วก็น้องอยากทำอาชีพอะไรต้องศึกษาลักษณะของอาชีพนั้นๆให้ละเอียดนะคะ อย่าเลือกอาชีพที่ผลการเรียน บางคนเรียนเก่ง หนทางอาชีพคือ กรุต้องเป็นหมอเท่านั้น เลือกทั้งๆไม่ได้ชอบไม่อยากเป็นหมอจากใจ แต่ค่านิยมว่าคนเก่งต้องเรียนหมอไง พอถึงเวลาทำงานจริงก็เป็นหมอแค่ภายนอก จิตใจไมไ่ด้เป็นไปด้วย (อาชิพอื่นก็เหมือนกันนะ แค่ยกตัวอย่างหมอเพราะเห็นชัดสุด)
บ่นซะยืดยาว(ตามประสาคนแก่ -*-) ถ้าสิ่งที่เขียนมีประโยชน์กับน้องบ้างไม่มากก็น้อยพี่ก็ดีใจค่ะ ^^
จึงไม่สามารถให้คำแนะนำได้...นอกจาก
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะน้อง อนาคตอะไรไม่แน่ไม่นอน
อาชีพที่ฝันไว้อาจจะไม่ใช่ในอนาคตก็ได้
คุยกับแม่ แม่ไม่เข้าใจก็คุยกับพ่อ ให้พ่ออ้อนแม่แทน 555+(ขำๆนะหนู)
แต่เรียนมาก็รู้สึกว่าคุ้มนะ ได้ความรู้รอบตัวหลายๆอย่างเยอะเลย เข้ามหาวิทยาลัยแล้วค่อยเลือกสาขาที่ชอบจริงๆก็ยังไม่สายค่ะ :) (ถ้ายังไม่แน่ใจจริงๆอะน้าว่าชอบอะไร)
ตัวอย่างแฟนพี่ได้ทุนจบตรีจุฬา โทเมกา เอกเยอรมัน(ภาษาเยอรมันเรียนเอาทีหลังได้มีสอนเยอะแยะคะ) แฟนพี่เรียนสายวิทย์ เข้าตรีสถาปัตย์(วาดเขียน) โท+เอกวิศวะ ลองถ้าน้องเรียนสายศิลป์มานะ อนาคตอยากเป็นวิศวะก็จบกัน ตอนนี้พี่ยังอยากย้อนไปเรียนสายวิทย์เลยเพราะคิดได้ว่า อยากเป็นหมอรักษาสัตว์ แต่ก็สายไปซะแล้วคะ
มองไปให้ไกลนะคะ ยังไม่รู้ว่าชอบอะไร ให้หากิจกรรมทำให้มากๆ เดี๋ยวจะพบมันเองคะ