หนูจะไหวมั้ย......ถ้าไป work and travel คนเดียว.....เครียดๆๆๆ

จะพอไหวมั้ยค่ะถ้าต้องไป work  and travel คนเดียวปัญหาต่อเนื่องจากเมื่อวานค่ะ  เมื่อวานนี้ก็ตั้งกระทู้ถามว่า จะไป นิวยอร์ค......ก็ได้รับข้อมูลต่างๆจากชาวจีบันนี่แหละค่ะ....เลยเปลี่ยนใจไป myrtle beach south carolina  ได้ทำ subway ค่ะ  ......แต่ก้ยังกลัวๆเพราะ....กลัวเรื่องที่พัก...เพราะเราไปคนเดียวกลัวไม่มีคนแชร์ที่พักด้วย.....เพื่อนที่ไปจากเอเจนซี่เดียวกันก็มีแค่4คน......กลัวมีปัญหาเรื่องการเดินทางการสื่อสาร..............เครียดๆๆๆคิดไปหมดทุกเรื่องเลยค่ะ.....เลยคิดว่าถ้าถอนตัวตอนนี้ยังทันเพราะจ่ายค่าจองงานไปแค่3500บาทเอง   แต่ก็น่ะอิกใจก้อยากไป........เรื่องงานและความลำบากหนักหนาการใช้แรงงานนี่ไม่กลัว.......แต่ที่กลัวจริงๆก้กลัวไม่มีเพื่อนอิกอย่างเราไม่เก่งเรื่องภาษาเท่าไหร่หากไม่ได้ขึ้นมาใครจะช่วยเรา.........ตัวคนเดียวคิดแล้วก้เริ่มลำบากใจ......มาขอกำลังใจ..และอยากให้ชาวจีบันช่วยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การไป work  and travel คนเดียวหน่อยน่ะค่ะ...................เชื่อค่ะว่ามิตรภาพจากพี่น้องชาวจีบันมีอยู่จริง.......ขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ

Discussion (16)

เราจะไปworkเหมือนกันคะ รุสึกจะเคสคล้ายๆเจ้าของกระทู้เลย เราจองที่Brooklynไปเหมือนกัน แล้วก็อยากจะเปลี่ยนเหมือนกันด้วย

ยังไงขอเมล์ได้มั้ยอะคะ หรือว่าถ้าเล่นBBก็ขอPinหน่อยค่า

เราก็ไปคนเดียวเหมือนกัน

^^
ขอบคุณมากน่ะค่ะ........เราตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ต่อ....คงไม่มีอะไรเลวร้ายจนเกินความสามารถของคนเราหรอกเนอะ...

ขอบคุณจริงๆ...ทุกคนทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น..และทำให้รู้ว่าโอกาสเป็นสิ่งที่สำคัญมาก..ขอบคุณจริงๆค่ะ
เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ค่ะ ... Re-Use กำลังใจค่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาๆๆๆ จะเล่าอะไรให้ฟังนะ...

มีเด็กหญิงคนหนึ่ง โดนพ่อและแม่ที่ต่างฝ่ายต่างกำลังจะแต่งงานใหม่ กระทำการเนรเทศเด็กหญิงไปเรียนต่างประเทศตอนอายุ 13-14 ปี แถมไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนไทยน้อยมาก

ตั้งแต่วันแรก ที่เข้าห้องเรียนไป ต้องนั่งหัวดำอยู่คนเดียว เพื่อนๆ ก็พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ครูก็พูดไม่รู้เรื่อง ได้แต่นั่งเป็นก้อนหิน ให้เพื่อนๆ เอายางลบปาหัว จนร้องไห้กลับบ้าน ไปนั่งดูการ์ตูนในทีวีที่บ้านพัก เป็นการปลอมใจตัวเอง...

เรื่องเป็นอย่างนี้ทุกวัน จากเริ่มที่ยางลบแค่หนึ่งก้อน-สองก้อน-สามก้อน จนกลายเป็นว่า เด็กทุกคนพร้อมใจกันปายางลบมาพร้อมกันทั้งห้อง แต่เด็กหญิงก็ยอมให้พวกนั้นเอายางลบปาหัวอยู่แค่ 3 วันเท่านั้น  จนมีเสียงในใจดังขึ้น "ชั้นหมดความอดทนแล้วนะ" เด็กหญิงจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วถามว่า "ยางลบพวกนี้เป็นของใคร" เงียบ! แล้วก็ต่อด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน

เด็กผู้หญิงส่งยิ้มสยามอาบยาพิษออกไป โดยไม่ให้เด็กคนไหนได้รู้ตัว แล้วเดินเก็บยางลบทุกก้อนที่ตกอยู่บนพื้นห้องเรียน มาใส่ไว้ในถุงอาหารกลางวัน ทำอย่างนี้ทุกวัน จนสัปดาห์แรกผ่านไป

สัปดาห์ที่ 2 เริ่มต้นด้วย ยางลบที่โปรยปรายลงมาเหมือนสายฝนเช่นเดิม กับความตั้งใจเรียนอย่างหนัก และการฝึกภาษากับคุณครูทีวีใจดี ทางช่อง Cartoon และมีเพื่อนๆ เหล่าตัวการ์ตูนมากมาย ก็มาช่วยสอนภาษาด้วย

สัปดาห์ที่ 3 ก็เริ่มต้นเหมือนเดิม และ ผ่านไป

สัปดาห์ที่ 4 เริ่มต้นด้วย ยางลบเพียงไม่กี่ก้อน กับความตั้งใจที่ยังเหมือนเดิม แต่...
จนสิ้นสุดสัปดาห์ เด็กหญิงได้พบว่า การประเมินผลการเรียนประจำเดือนนี้ ความตั้งใจเรียนทำให้เด็กหญิงเป็นที่หนึ่งของห้อง ในเกือบทุกวิชา (ยกเว้นพละศึกษา เพราะว่ายน้ำไม่เป็น และ ศิลปะ เพราะการวาดรูปของเด็กหญิงเท่าเด็กอนุบาล อิอิอิ) และจำนวนยางลบก็ลดลงจนแทบไม่มีเหลือแล้ว

หลังจากการถูกเชิญออกไปพูดแสดงตัวหน้าชั้นเรียน และ ถูกยกย่องให้เป็นนักเรียนตัวอย่างของเดือน เด็กชายใส่แว่นที่เคยเรียนเก่งที่สุดในห้อง เดินเข้ามาพูดแสดงความยินดี พร้อมท้าทายกับการสอบครั้งต่อไปในเดือนหน้า และค่อยๆ ตามมาด้วยคำถามอีกมากมายจากเพื่อนในห้อง และคำสารภาพที่ทำให้เด็กหญิงรู้ว่า เพื่อนๆ เห็นเด็กหญิงเป็นของแปลกใหม่ในห้องเรียน อยากรู้จัก แต่ไม่กล้า เด็กในชั้นแทบทุกคนได้ตั้งคำถามและพูดคุยกับเด็กหญิงมากมาย

แต่สุดท้าย ก็จบลงด้วย 2 คำถาม อันเป็นความสงสัยของเด็กทุกคน พร้อมทั้งสร้างเสียงหัวเราะในเวลาเดียวกันว่า "ทำไมเธอพูดเหมือนการ์ตูนเลยอ่ะ ตลกดี" และ "แล้วเธอเอายางลบของพวกเราไปไว้ไหน ชั้นโดนแม่ด่าตั้งหลายครั้ง ที่ใช้ยางลบเปลืองเกินไป จนต้องเอาเงินค่าขนมตัวเองไปซื้อแล้ว"

ในบ่ายวันนั้น หลังเลิกเรียน เด็กหญิงออกเดินนำเพื่อนกลุ่มเล็กๆ ไปยังโบสถ์ของชุมชน พอเด็กหญิงเดินเข้าไป พบกับคุณพ่อบาทหลวงชราหน้าตาใจดีท่านหนึ่ง ซึ่งเข้ามาทักทายเด็กหญิงอย่างสนิทสนมว่า "ว่าอย่างไงจ๊ะ นางฟ้าใจดี ที่มียางลบมากที่สุดในโลก เธอรู้มั้ยว่า เด็กๆ ที่สถานสงเคราะห์ฯ ดีใจกันมากเลย ที่มียางลบใช้กันทุกคน และยังเหลือพอส่งไปให้ที่อื่นด้วยนะ" 

เพื่อนๆ ทุกคนถึงบางอ้อ พร้อมทั้งได้เห็นรอยยิ้มสยามอาบยาพิษและได้ยินสำเนียงการพูดแบบการ์ตูนของเด็กหญิง  ที่ปิดฉากความฉงนทั้งหมดของเพื่อนๆ ลงอย่างเจ็บปวดว่า "แต่ชั้นยังมียางลบก้อนแพงๆ สวยๆ เหลืออีกแยะนะ ถ้าพวกเธอไม่อยากโดนแม่ด่า ชั้นก็จะเปิดการขายพรุ่งนี้ รับรองว่า ราคาถูกกว่าตามร้านค้ามากกว่าครึ่งแน่นอน"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้ แค่อยากบอกให้คุณรู้ว่า "ไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าหัวใจของคุณยังมีวิญญาณของความเป็นเด็ก ซึ่งไม่เคยกลัวที่จะเรียนรู้ ที่จะยอมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สู้ สู้ สู้ นะคะ จขกท
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ :
ปัจจุบัน เด็กหญิงได้เติบโตเป็นหญิงสาว ซึ่งเป็นคนรักของชายหนุ่มที่ใจดีที่สุดในโลก แต่หญิงสาวก็ยังคงมีรอยยิ้มสยามอาบยาพิษและแผนการใหม่ๆ ในหัวเสมอ อิอิอิ เออ... และยังคงชอบนั่งดูการ์ตูนเหมือนเดิมด้วย อิอิอิ
พลอยก็ไปคนเดียวค่ะ  กะว่าจะฝึกความอดทน

เคสใกล้เคียงกัน เลยอยากให้กลับอ่านที่กระทู้เก่าๆ นี้ค่ะ กำลังใจเพียบ

http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=70714         คำตอบของเรา คือ Comment ที่ 17 ค่ะ

สู้ๆ นะคะ