อากาศแห้ง ส้นเท้าแตกกันแล้วรึยังคร๊าา
kuroyume1คนทั่วไปมักชอบอากาศเย็นๆ ในหน้าหนาว หรือแม้แต่การอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานๆ โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่แฝงมากับอากาศเย็นนั้นคือ การสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแห้งแตก หยาบกร้าน โดยปัญหาหนึ่งที่มักพบกันอยู่เสมอ คือ ส้นเท้าแตก ซึ่งปัญหานี้มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยผู้หญิงร้อยละ 40 (หรือ 4 ใน 10 คน) จะมีปัญหาส้นเท้าแตกหรือหยาบกร้าน ซึ่งส่งผลต่อบุคลิกภาพด้วย เพราะหากเท้ามีสุขอนามัยที่ไม่ดีหรือมีบาดแผล ก็จะทำให้เสียบุคลิกภาพได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะป้องกันหรือรักษาเราควรที่จะรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านั้นกันก่อน
ปัญหาสำคัญของโรคส้นเท้าแตกมักเกิดได้จากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวหนังบริเวณส้นเท้าที่มีรูพรุนและความยืดหยุ่นลดลง ทำให้ไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ ซึ่งมักเป็นกับคนในวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ
2. ปัญหาผิวแห้งโดยพันธุกรรม ทำให้ผิวไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ผิวจึงแห้งแตก
3. การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือเกิดภาวะโรคอ้วน
4. ปัญหาจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อม อันได้แก่ การยืนหรือเดินเท้าเปล่าบนพื้นที่มีความเย็นและแข็ง เช่น พื้นปูนซีเมนต์ การสวมใส่รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าเปิดส้นเป็นเวลานานๆ การอยู่ในห้องปรับอากาศ การสัมผัสกับสารเคมี เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น
ซึ่งหากละเลย ปัญหาที่จะเกิดตามมา คือ ส้นเท้าอาจแตกจนเกิดบาดแผล ทำให้มีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ลุกลามจนเกิดอันตรายได้ แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะเพราะวันนี้เรามีข้อแนะนำดีๆ ในการช่วยลดหรือแก้ปัญหาของโรคส้นเท้าแตกมาฝากกัน
1. ควรทำความสะอาดเท้าแต่พอควร ไม่ควรใช้สบู่หรือแช่น้ำอุ่นเป็นเวลานานๆ เพราะจะล้างเอาน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกเกินความจำเป็น ยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
2. ควรขัดเท้าเพื่อขัดขี้ไคลออกอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
3. หลังทำความสะอาดเท้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า และเกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มมาแทนที่ เช่น สารกลุ่ม AHA และสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิวได้โดยการดูดซับน้ำให้คงไว้ใต้ผิวหนัง และยังทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบผิวไว้ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว เช่น สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล นอกจากนี้ยังควรมีสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV ได้ เช่น Shea Butter, Vitamin E และอื่นๆ เป็นต้น
4. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง เช่น เปลี่ยนมาใส่รองเท้าหุ้มส้นแทนการใส่รองเท้าเปิดส้น ควรสวมใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าลำลองสำหรับใส่ในบ้านเมื่อต้องเดินบนพื้นเย็นๆ และพื้นที่มีความแข็ง หรือการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นประจำ ควรลดน้ำหนักเพื่อไม่ให้เกิดภาวะโรคอ้วน จนทำให้ผิวหนังที่ส้นเท้ารับน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดส้นเท้าแตก
ลองหันมาใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ควรมองข้ามกันดูนะคะ เพราะนอกจากคุณจะมีสุขภาพเท้าที่ดีแล้วยังเป็นการช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีได้อีกด้วย
Discussion (1)