สาวจีบันมีใครทำธุรกิจครอบครัวบ้างมั๊ยคะ มาแชร์ความรู้สึกกันหน่อย
น้องกลาง111น้องกลางเคยทำงานเป็นสาวออฟฟิศมา 10ปี แล้วลาออกมาทำธุรกิจของครอบครัวที่ต่างจังหวัด ในอำเภอเล็กๆสงบๆ
เมื่อก่อนตอนอยู่ออฟฟิศเคยมีอะไรทำต่อเนื่องตลอดเวลา (เดี๋ยวเช็คเมลล์ รับโทรศัพท์ ประชุมกับทีมงาน นั่งทำงานหน้าคอม) ตอนนี้ต้องมานั่งรอลูกค้ามาซื้อของที่ร้านทั้งวัน เย็นปิดร้านก็พยายามไปออกกำลังกาย มีเท่านี้เองวันๆ
พยายามที่จะคิดในแง่บวก แต่ความรู้สึกจริงมีหนีไม่พ้นว่า เราเหงา ไม่มีความภูมิใจในตนเองเพราะธุรกิจยังเป็นของพ่อแม่อยู่ เรายังทำเองไม่เป็นเนื่องจากสินค้าต้องใช้ประสบการณ์ด้านเทคนิคบางประการ
ความกระฉับกระเฉงลดลงจากร้อยเหลือแค่สิบ
เพื่อนๆใช้ชีวิตกันยังงัยบ้างคะ
อยากมีชีวิตที่สนุกและประสบความสำเร็จมากกว่านี้
เมื่อก่อนตอนอยู่ออฟฟิศเคยมีอะไรทำต่อเนื่องตลอดเวลา (เดี๋ยวเช็คเมลล์ รับโทรศัพท์ ประชุมกับทีมงาน นั่งทำงานหน้าคอม) ตอนนี้ต้องมานั่งรอลูกค้ามาซื้อของที่ร้านทั้งวัน เย็นปิดร้านก็พยายามไปออกกำลังกาย มีเท่านี้เองวันๆ
พยายามที่จะคิดในแง่บวก แต่ความรู้สึกจริงมีหนีไม่พ้นว่า เราเหงา ไม่มีความภูมิใจในตนเองเพราะธุรกิจยังเป็นของพ่อแม่อยู่ เรายังทำเองไม่เป็นเนื่องจากสินค้าต้องใช้ประสบการณ์ด้านเทคนิคบางประการ
ความกระฉับกระเฉงลดลงจากร้อยเหลือแค่สิบ
เพื่อนๆใช้ชีวิตกันยังงัยบ้างคะ
อยากมีชีวิตที่สนุกและประสบความสำเร็จมากกว่านี้
Discussion (11)
เราก็ทำธุรกิจครอบครัวค่ะ
คนจะชอบคิดว่าเราสบาย ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าเข้าออฟฟิศเหมือนคนอื่นเค้า
แต่แท้จริงแล้ว มันเซ็งมากกกกก เจอแต่หน้าพ่อแม่ กับพนง.ไม่กี่คน นอกนั้นก็เป็นพวกคนงาน
เมื่อก่อนเคยทำงานข้างนอกเหมือนคนทั่วๆ ไป คิดถึงอารมณ์นั้นมากๆ เหนื่อยแต่สนุก ไม่เหงา
แต่พ่อบังคับไม่ให้ไปทำที่อื่นอีกแล้ว เค้าต้องการให้เรามาช่วยบริษัท
ส่วนนึงก็คุณแม่ขอร้อง เพราะไม่อยากให้มีปัญหากะพ่อ
เราอยู่แบบนี้มาหลายปีมากแล้ว ปีนี้เป็นปีที่รู้สึกอยากปฏิวัติมากที่สุด เพราะเริ่มรู้สึกหมดความอดทนจริงๆ
แต่ของเรานี่ ร้ายแรงถึงขั้นถ้าเราไม่ช่วยงานที่บ้าน เราก็ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเลยค่ะ
เพราะพ่อเราเป็นคนอารมณ์ร้าย ถ้าไม่ได้ทำงานด้วยแล้ว เราก็ไม่อยากอยู่ด้วย อยู่ก็ปัญหาเกิดแน่นอน
ทุกวันนี้ คนอื่นเลิกงาน กลับบ้าน แต่เราเลิกงาน ออกจากบ้านค่ะ หาเพื่อนเที่ยวไปเรื่อย
เสาร์-อาทิตย์ ก็ไปเที่ยวเล่น ตจว บ้าง ค้างบ้านเพื่อนบ้าง เพราะเบื่อบ้านสุดๆ
และปกติเราไม่คุยอย่างอื่นกับพ่อเลยค่ะ นอกจากเรื่องงาน
เพราะลึกๆ เรารู้สึกถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ทั้งที่เราสามารถทำอะไรได้ดีกว่านี้อีกเยอะ
และสมควรจะมีชีวิตที่ดี มีสังคมที่กว้างขวางมากกว่านี้ - -"
คนจะชอบคิดว่าเราสบาย ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าเข้าออฟฟิศเหมือนคนอื่นเค้า
แต่แท้จริงแล้ว มันเซ็งมากกกกก เจอแต่หน้าพ่อแม่ กับพนง.ไม่กี่คน นอกนั้นก็เป็นพวกคนงาน
เมื่อก่อนเคยทำงานข้างนอกเหมือนคนทั่วๆ ไป คิดถึงอารมณ์นั้นมากๆ เหนื่อยแต่สนุก ไม่เหงา
แต่พ่อบังคับไม่ให้ไปทำที่อื่นอีกแล้ว เค้าต้องการให้เรามาช่วยบริษัท
ส่วนนึงก็คุณแม่ขอร้อง เพราะไม่อยากให้มีปัญหากะพ่อ
เราอยู่แบบนี้มาหลายปีมากแล้ว ปีนี้เป็นปีที่รู้สึกอยากปฏิวัติมากที่สุด เพราะเริ่มรู้สึกหมดความอดทนจริงๆ
แต่ของเรานี่ ร้ายแรงถึงขั้นถ้าเราไม่ช่วยงานที่บ้าน เราก็ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเลยค่ะ
เพราะพ่อเราเป็นคนอารมณ์ร้าย ถ้าไม่ได้ทำงานด้วยแล้ว เราก็ไม่อยากอยู่ด้วย อยู่ก็ปัญหาเกิดแน่นอน
ทุกวันนี้ คนอื่นเลิกงาน กลับบ้าน แต่เราเลิกงาน ออกจากบ้านค่ะ หาเพื่อนเที่ยวไปเรื่อย
เสาร์-อาทิตย์ ก็ไปเที่ยวเล่น ตจว บ้าง ค้างบ้านเพื่อนบ้าง เพราะเบื่อบ้านสุดๆ
และปกติเราไม่คุยอย่างอื่นกับพ่อเลยค่ะ นอกจากเรื่องงาน
เพราะลึกๆ เรารู้สึกถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ทั้งที่เราสามารถทำอะไรได้ดีกว่านี้อีกเยอะ
และสมควรจะมีชีวิตที่ดี มีสังคมที่กว้างขวางมากกว่านี้ - -"
เราเครียดกว่านะ เจอกระทู้แบบนี้เหมือนได้ระบายเลย 5555
เข้ามาตอบกันอีกเยอะๆนะคะ
รู้สึกดีว่ายังมีคนที่เป็นเหมือนเรา
รู้สึกดีว่ายังมีคนที่เป็นเหมือนเรา
อารมณ์เดียวกันเลยค่ะ เราทำงานกับที่บ้านจะมีเวลาว่างหลังจากที่เคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว
ก็เอาโน็ตบุคมาดูซีรีย์ เล่นคอม แต่ก็เบื่อค่ะ ชีวิตมันซ้ำๆ
แต่ก็มีเวลาลาไปไหนได้ ตามสมควร ไม่เหมือนพนักงานออฟฟิตที่ วันลานั้นจำกัด
แต่เราอยู่ที่บ้านเหมือนเวลามันนิ่งไป ไม่กระตือรือร้นเหมือนเคย
เลยไปหาเวลาไปเรียน ปโท ค่ะ รู้สึกชีวิตได้ทำอะไรมากขึ้น เรียนแล้ว เอาการบ้าน หรือจะอ่านหนังสือ ตอนที่ทำงานเสร็จแล้วก็ได้ วันหยุดก็ไปเที่ยว พักผ่อนตามปกติ เท่านี้เวลาก็หมดแล้วค่ะ
ก็เอาโน็ตบุคมาดูซีรีย์ เล่นคอม แต่ก็เบื่อค่ะ ชีวิตมันซ้ำๆ
แต่ก็มีเวลาลาไปไหนได้ ตามสมควร ไม่เหมือนพนักงานออฟฟิตที่ วันลานั้นจำกัด
แต่เราอยู่ที่บ้านเหมือนเวลามันนิ่งไป ไม่กระตือรือร้นเหมือนเคย
เลยไปหาเวลาไปเรียน ปโท ค่ะ รู้สึกชีวิตได้ทำอะไรมากขึ้น เรียนแล้ว เอาการบ้าน หรือจะอ่านหนังสือ ตอนที่ทำงานเสร็จแล้วก็ได้ วันหยุดก็ไปเที่ยว พักผ่อนตามปกติ เท่านี้เวลาก็หมดแล้วค่ะ
โอ้โห อารมณ์เดียวกันเลยอะ เคยทำงานอยู่กทมเหมือนกัน กลับมาอยู่บ้านทำงานที่บ้าน ไม่มีสังคมเลย เข้าใจเลยค่ะว่ารู้สึกอย่างไร เพราะตอนนี้อย่างไรก็ไม่ใช่ของเราอย่างเต็มตัว ยินดีเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม อิอิ
เรากลับไปทำงานที่บ้่านที่ ตจว ห่างกะแฟน ก็เลยเลิกกัน (จริงๆ ผช น่าจะเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างมากกว่า)
แล้วเราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่ที่นี่เลย เหงา มาก ยังดีที่เราเปิดร้านกาแฟ
ยังมีอะไรให้ทำได้บ้าง ทำมาได้ 1 ปี ขอแม่ออกมาเรียนโท
ตอนนี้กลับมาทำงาน ที่กท. งานเหนื่อย เงินน้อย ไม่เหมือนอยู่บ้าน
สบาย มีีตังใช้ กะว่าถ้าเรียนจบ ต้องกลับไปทำที่บ้านอย่างจริงจัง
เรียนรู้ให้ได้มากที่สุด และจะได้มาขยายสาขามาที่นี่
จขกท สู้ๆนะค่ะ