♥v♥ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ .. เมื่อครอบครัว ไม่ชอบแฟน......


เฮ๊ย พิมพ์เพลิน ยาวเว่อร์............... อ่านไม่จบกันแหงๆ.... 




 หนักอกหนักใจมากค่ะ.... ไม่ใช่หน้าอกใหญ่นะ (แหะๆ) 
เหตุทั้งหมดทั้งมวล คือแฟนเรา.... ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร หรือด้วยเหตุผลบางประการ

จะเล่าที่มาของเรื่องก่อนนะคะ ตั้งแต่เริ่มเลยรู้จักกับแฟนเลย

เราเล่นเว็บเพื่อนต่างประเทศเว็บหนึ่ง ก็คุยกันไปเรื่อย หาเพื่อนต่างประเทศที่อยากเป็นเพื่อนกับเราจริงๆ
แล้ววันนึงเราก็ได้รู้จักเพื่อนเกาหลีคนนึงค่ะ เราคุยกันทุกวันๆ แต่ละวันก็รอเวลาออนของกันและกัน จากคนที่เพิ่งรู้จัก ก็กลายเป็นเพื่อน 
จากเพื่อนก็กลายเป็นเพื่อนสนิท เริ่มเล่นไมค์คุยกัน จนใช้กล้องคุยกัน
เขาดีกับเราทุกอย่างผ่านอินเตอร์เน็ต เวลาเรามีงาน เราต้องการโปรแกรมนู่น นี่ นั่น หรือเกมส์ต่างๆ ไฟล์ใหญ่และหายากมาก
บางทีเราบอกไม่ต้องๆ เขาก็ยังจะอุส่าห์สรรหามาให้
จนเราเริ่มสงสัย ว่าเขาชอบเรารึเปล่า หลังจากที่คุยกัน 4 เดือน (ทุกวัน) เราเลยลองถามเขาดูว่าเขาชอบเรารึเปล่า (ถ้าไม่ชอบนี่หน้าแตก 555 )   ค่ะ.......... เราถามเขา สุดท้ายคำตอบที่ได้มาก็คือ เขาชอบเรา
เราก็เลยบอกว่า ไม่จริงอะ เรายังไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ แค่คุยกันทุกวันผ่านเน็ต จะมาชอบกันได้ไง ไม่เชื่อหรอก ยังไงก็ไม่เชื่อ
(แล้วเราเป็นคนชอบทำร้ายตัวเองเล็กๆ ฮ่าๆ พอให้สะใจ.. เวลาโกรธมันต้องดับด้วยความเจ็บปวด.. โรคจิตเนอะ)
เขาเลยบอกว่า เอามั๊ยหล่ะ? ถ้าไม่เชื่อ ผมจะกรีดข้อมือให้คุณดู ไอ้เราก็ไม่เชื่อหรอก ฮ่าๆ เลยบอก กล้าหรอๆ เพราะเขาชอบห้ามเราเวลาเราทำเล่น แต่พอเหมือนเขาจะกรีดจริง เราก็คิด ถ้าเขาทำจริง... ถ้าลูกเขาเป็นอะไรไป.. แม่เขาไม่เกลียดเราแย่หรอ ....?? เราเลยบอก ไอ่บ้า ทำบ้าไรหน่ะ เป็นไรขึ้นมาทำไง   เขาก็บอก ก็คุณไม่เชื่อผม ผมจะทำอะไรให้คุณเชื่อได้หล่ะ??
และแล้ววันนึง เขาก็บอกว่าเขาจะมาหาที่ไทย เราก็ไม่เชื่อ จะบ้าหรอ มาคนเดียว อายุก็ 17-18เอง แล้วเขาก็มาจริงๆค่ะ
เขามาอยู่บ้านเรา 1 เดือนเต็ม (ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะคะ เรายังไม่เคยมีแฟน เราเลยอยากได้คนที่รักเราจริงมาเป็นแฟนคนแรกและคนสุดท้าย) แล้วพอเขากลับไป....หลังจากกลับไปเขาก็ขอเราเป็นแฟน....
เรื่องก็เกิดขึ้น......... (พูดแต่เรื่องเสียๆนะคะ)

'The First Time'
พ่อบอกว่า ...........
- ผู้ชายอะไร ให้พ่อ(พ่อเรา)ซักถุงเท้าให้
- ข้ามถนนไม่รอลูกสาวเรา แล้วจะดูแลลูกเรารอดไหม?
- วันที่เขานอนห้องเดียวกับพ่อ พ่อบอกมันเอาเท้าวางตรงปลายเตียงมัน ทีวีพ่อมีแต่เท้า!!!! และพ่อโมโห... (เขาไม่รู้ว่ามันบังค่ะ)
- ไม่รวย พ่อกลัวเราลำบากกับเขาในอนาคต


พอผ่านไปปีครึ่ง เรายังคุยกันทุกวันเหมือนเดิมค่ะ เปิดกล้องคุยทุกวัน ไม่ได้คุณนานสุดก็ 3-4 วัน
เขามาหาเราอีกครั้งในกลางปีนี้ คราวนี้มา เดือนครึ่ง เราจองที่พักให้เขาหน้ามอ หอเราอยู่หลังมอ ขับรถไปๆมาๆ
เขาบอกว่า "ผมเอาทุนที่ผมได้จากการเรียน มาซื้อตั๋ว เครื่องบิน เพื่อจะมาหาคุณก่อนผมไปเป็นทหารปีหน้า"
ก็ทำอะไรด้วยกันเยอะค่ะ ชดเชยเวลาที่ผ่านไปแล้วไม่ได้ทำด้วยกัน พาไปเที่ยววัดนู่น ดูนี่ พาไปเรียนด้วย ต่างๆนาๆ
พากลับบ้านทุกๆวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำกิจกรรม ทำอาหารไป แต่บ้านเราเป็นครอครัวหัวโบราณค่ะ เรียกได้ว่าหัวโบราณทั้งตระกูลเลยก็ว่าได้ อยู่บ้านแค่โดนเนื้อต้องตัวนิดหน่อยอาจจะโดนด่าได้ เราเลยบอกกับเขาว่า อย่าใกล้เรามากนะ เดี๋ยวจะโดนด่า 
เขาเพิ่งมาบอกกับเราวันก่อนค่ะว่าตอนเขาอยู่บ้านเรา อึดอัดมาก เขาแค่อยากจะไปไหว้แล้วก็กลับ เพราะเขารู้ตั้งแต่ที่เขามาครั้งแรกแล้ว ว่าพ่อเราไม่ค่อยชอบเขา เขาบอกอีกว่า หัวเขาคิดอะไรไม่ออกเลย คิดคำพูดภาษาไทยที่เรียนมาไม่ออกเลย ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ อยู่บ้านเลยเงียบ ไม่คุยกับเราด้วย ไม่ใกล้เราด้วย ซึ่งเราเพิ่งรู้เรื่องนี้จริงๆ
แม่ก็บอก ไหนเขาบอกจะฝึกพูดภาษาไทยไง ..... เพราะเขาไม่สบายใจจนลืมไปหมดเลยหน่ะสิ...

'The Second Time'
ข้อเสียของเขาครั้งที่ 2 มาจากพี่สาว (ไม่เคยบอกข้อดี 55)
อีกแล้วค่ะ... ครอบครัวเราเพิ่งมาบอกกับเราหลังจากเขากลับไปแล้ว
- เราบอกพี่สาวว่าเขาซื้อแป้งเป็นของขวัญ แต่เงินหนูนะ เงินหนูเหลืออยู่ที่เขาที่ฝากซื้อคราวก่อน 
แต่พี่สาวก็บอกว่า ของขวัญ? งั้นก็ต้องไม่ใช่เงินเราสิ... (แต่แม่เขาซื้อเสื้อคู่ให้นี่หนา... 
 ......มีสาหร่ายอีก 3 ถุง)
- พี่บอกอีกว่า มันดีหรอ?? ให้พ่อเราซักถุงเท้าให้นี่นะ??

เราเลยถามเขาจริงๆจังๆ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง
เรื่องแรก เรื่องการซักผ้า 
เขาบอกว่า "เขานึกว่าบ้านเราซักด้วยเครื่องซักผ้าหมด แล้วพ่อก็บอกว่ามีไรจะซักก็กองๆไว้ ผมไม่ได้ให้พ่อคุณซักถุงเท้าให้ผม"
เรา : ก็พ่อบอกว่าซักให้... 
เขา : ผมไม่ได้ให้พ่อซักให้ ผมรู้อะไรควรไม่ควร หรือมันอาจจะติดไป?

เรื่องสอง เรื่องเท้าบังทีวี (ปล. เรื่องที่ไม่พูดคือไม่มีอะไรจริงๆ หรือไม่มีคำตอบจากเขา 55)
เขาบอกว่า เขาไม่รู้จริงๆว่ามันบังทีวีพ่อเรา ถ้าเขารู้ เขาคงไม่ทำ แล้วถ้าพ่อบอก เขาก็จะรีบเอาลงและไม่ทำอีก

คือตอนนี้....เขาก็รู้สึกแย่มากค่ะ เขาบอกเขาจะไม่เจอครอบครัวเราอีกต่อไป เขาจะไม่โชว์หน้าเขาให้คนในครอบครัวเราเห็น(ทางกล้อง เลยบอกให้เราเข้าห้องก่อนจะเปิดกล้อง.. ถึงขนาดบอกไม่อยากเห็นฟอร์นิเจอร์ของบ้านเราเลยค่ะ) และจะไม่มาเหยียบบ้านเราอีก.... ในอนาคต ถ้าเรากับเขาได้แต่งงานกัน ถ้าเราอยากเจอครอบครัวเรา เขาจะส่งเรามาเจอ แต่เขาจะไม่มาด้วย.... เราก็คิดนะ จะบ้าหรอ พ่อแม่ภรรยาจะไม่ไปเจอ แต่อนาคตเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ พ่อแม่ก็คงเข้าใจ........... ถ้าเขาหางานดีๆทำได้ 


เขาบอกว่า "ทำไม ทำไมเวลาผมทำผิด ครอบครัวคุณถึงไม่บอกผม ประเพณีก็ไม่เหมือนกัน ทำไมถึงไม่บอกผม บอกผมต่อหน้าสิ ถ้าไม่บอกผมจะรู้ไหม ไม่ใช่มาพูดทีหลังให้เราฟัง....  ผมรู้ เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ ต้องก้มหัว แต่บางครั้ง ประเพณีเกาหลีไม่ได้เป็นแบบนี้ บางทีร่างกายมันทำไปก่อนที่ผมจะคิด ผมเป็นคนเกาหลี ผมไม่รู้ว่าที่ไทยอันไหนถือ อันไหนไม่ถือ ชาวต่างชาติต้องรู้เองทุกเรื่องหรอ? ถ้าไม่บอกผมจะรู้ไหม!!!!!!!!!!!!!!!!! ลองไปอยู่เกาหลีสิ แล้วถ้าไม่มีคนบอก คุณจะรู้มั๊ย อันไหนควรไม่ควร....  ส่วนเรื่องรวยๆไม่รวย ผมเกลียดเงิน ทำไม? ทำไมต้องขึ้นอยู่กับเงินด้วย ถ้าผมเลี้ยงลูกสาวคุณไม่ได้ ผมจะไม่เอาเธอไปอยู่กับผม"

เฮ้อ..... เราไม่รู้จริงๆค่ะ ว่าเราควรจะทำยังไงดี วันนี้เราก็บอกพ่อเรื่องถุงเท้า แล้วก็เรื่องเท้าหน้าทีวี 
แต่พ่อก็บอกว่า มีเกงบ๊อกเซอร์ด้วย! แล้วเรื่องเท้า ก็ควรรู้เอง ไม่ใช่ให้ใครมาบอก ประเพณีไทยบอกต่อหน้าหรอ?? แล้วพ่อแค่พูดให้ฟัง...........
อ้อ พ่อบอกด้วยว่าพ่อไม่ชอบพวกคนแถบนี้ พวกผิวเหลืองทั้งหลาย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น
พ่อบอกว่าพวกนี้ไม่มีมารยาท, เห็นผญ เป็นทาส...... เช่นอยากขากถุยตรงไหนก็ถุย เห็นแล้วขยะแขยง (พ่อพูด)
แต่พ่อแรา.... รู้จักเขาจริงๆแล้วหรอ.... 
ตั้งแต่เรารู้จักเขามาสองปีกว่า ไม่เคยทำถุ้ยหรืออะไรที่น่าเกลียดๆให้เห็นเลย
(บางทีเราอาจจะดูเข้าข้างแฟนไปหน่อยนะคะ... แต่เราเป็นคนที่รู้จักเขาดีที่สุดในครอบครัวเราแล้ว.. รู้จักจนไม่มีอะไรจะคุยกันในแต่ละวัน แค่นั่งมองหน้า...)

พ่อเรายังคงมองเค้าว่าไม่ดี... พี่สาวก็มองว่าไม่ดี
แต่แม่เราเอ็นดูเขาคะ แต่ก็มีบ้างที่มีคนมาบอกแม่ว่า เกาหลีเป็นพวกถือตัว ดูชนชั้นเป็นหลัก แต่ครอบครัวเขาไม่เป็นนี่คะ.. ทำไมตัดสินกันดื้อๆแบบนี้



ตอนนี้ เรากำลังจะสั่งของเกาหลีอีกครั้ง เขาบอกว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ก่อนที่เขาจะไปเป็นทหาร
แล้วพี่เราก็จดลิสที่พี่อยากได้มา..... สนนราคาสองพัน แค่ของพี่ 

อะไรเนี่ย!!!!!!!!!!!!! หนูโอนตังค์ไปแค่ 1,700 ......... ตังค์หนูด้วยงวดนี้ ไม่ใช่ตังค์พ่อ..
เขาก็บอกเราว่า "บอกพี่จ่ายตังค์มาก่อน ไม่งั้นผมไม่ซื้อให้ อย่าใช้ตังค์น้อง 55 ผมรู้ว่าคุณจะไม่ได้เงินคืน"
ย๊าาาาาาาาา ถูกกก ฮ่าๆๆ  พี่บอก จ่ายให้ก่อนนะ อิอิ....
เราก็คิด จะบ้า.... เราก็ซื้อไรไม่ได้เลยสิ... ให้พี่คนเดียวเลยงวดนี้....
แล้วแฟนเราก็โมโหค่ะถึงขั้นเกลียดพี่เราเลย....
เขาบอกว่า "พี่คุณได้ขอให้ผมซื้อให้รึเปล่า? ผมเป็นแฟนคุณนะ ไม่ใช่แฟนพี่คุณ ทำไมไม่คิดจะถามกันบ้าง ว่าผมอยากซื้อให้มั๊ย ผมจะซื้อให้คุณคนเดียว รอพี่คุณกลับกทม. ไปก่อน..."

เราก็บอกว่า เอาหน่า ขอโทษษษษ คิดซะว่าเราสั่งเองหมดแล้วกัน เราปฏิเสธพี่เราไม่ได้จริงๆ...
แฟนก็บอก "ผมเกลียดครอบครัวคุณจริงๆ ทำไมผมต้องเลวในสายตาของคนอื่นด้วย ผมไม่อยากเป็นคนไม่ดี แต่คุณรู้มั๊ย พี่คุณควรจะถามผมบ้าง ว่าซื้อให้ได้มั๊ย ถ้าเป็นที่เกาหลี แบบนี้ถือว่าเสียมารยาทมากๆ ผมเกลียด... เกลียดจริงๆ... ผมจะลืมครอบครัวคุณ แต่ผมจะไม่ทิ้งคุณ..." blah blah blah..........

เขาว่าครอบครัวเราเยอะอยู่ค่ะ แต่เราไม่โกรธเลย..... เราเลยถามเขาว่า ถ้าเราด่าครอบครัวเขามากๆ เขาจะโกรธมั๊ย? 
เขาบอกว่า ถ้าครอบครัวเขาไม่ได้พูดไม่ดีใส่ ก็จะโมโห แต่ถ้าพูดไม่ดีใส่ก่อน ก็จะไม่โมโห... 

เราปลอบเขาสารพัด แต่เขาก็ยืนยันคำเดิมว่าเขาไม่ชอบครอบครัวของเรา เริ่มไม่ชอบประเทศไทยแล้วด้วย....
เราก็บอก แค่คนในครอบครัวฉัน จะเกลียดประเทศเราทำไมย๊ะ!! แล้วเราก็ถามอีกว่า หลังจากหมดทหาร..ถ้าลืมภาษาไทยที่อุส่าห์เรียนมาหล่ะ? 
เขาบอกว่า เขาจะไม่เรียนอีก 

โนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!

เราเลือกไปไม่ถูกจริงๆ อ๊ากกกกกกกกกกกก
ครอบครัวก็สายเลือด.......
แฟนก็โดนครอบครัวว่าทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง.............
ช่วยแนะนำเราหน่อยคะ.... ที่นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายแล้ว
วันๆนั่งเอาหัวโขกโน๊ตบุ๊ค ไม่รู้จะทำไงดีแล้ว 




 
 

Discussion (25)

 เพิ่งมาอ่านเจอ หัวอกเดียวกัน

 แต่อ่านไม่จบ พยายามจับจุดเนื้อๆ 5555

เอาเป็นว่าสู้ๆแล้วกันนะคะ ชีวิตยังอีกยาวไกล  
เราค่อยๆทำวันนี้ให้มันดีที่สุด 
รักกัน เข้่าใจกันให้มากๆ 

แน่นอน family backgroud ต่างกันทุกอย่างมันย่อมต้องจูนกันมากๆ 

รักไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คน ในที่สุดแล้วชีวิตคู่มันต้องผ่านอุปสรรค มากมาย
ถามว่าเรื่อง "เงิืน"  สำคัญไหม พี่ตอบได้ ....... เต็มปาก ว่า "สำคัญ "
 พี่สาวน้องอาจจะ อยากลองใจ ว่าเค้าจะดูแล น้องได้ไหม ก็แค่นั้น ธรรมดาของคนห่วงน้องสาว

ไงก็ขอให้สู้ๆ แล้วกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ 
คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน จ้า 


ปล พี่จะไป พักบ้านแฟน เดือนธันวานี้  แอบหวั่นว่าจะเจอ case เดียวกัน  กะแฟนน้อง  


ขอบคุณทุกๆความเห็นอีกทีค่า อิอิ
งวดนี้ขอไม่ตอบทุกคนน้า เพราะเราใช้คอมบ้าน ไม่ค่อยกล้าเปิดกระทู้นี้ 555  เดี๋ยวพี่มาเห็นนี่ซวยเลย.........

ตอบคุณ gooobboob กับ คุณSodaZaA ค่า
คุยกัน 3 ภาษา อิ้ง เกาหลี ไทย 5555
เรารู้เกาหลีบางคำอ่าค่ะ แล้วเขาก็เรียนภาษาไทยอยู่
วัฒนธรรมต่างกันจริงด้วยอ่ะ แต่เค้ามีอคติกับครอบครัวคุณมากเกินไปแล้ว
ส่วนพี่สาวคุณ ไม่ชอบเค้าแล้วไปฝากเค้าซื้อของทำไมอ่า
ใช่ๆอยากรู้ด้วยคน คุยภาษาอะไรกันคะ
ส่วนเรื่อง รวยไม่รวยเราว่าอันนี้มันอยู่ที่ความพอใจของคนนะ
บางคนก็พอใจในระดับนึง
บางคนก็ต้องการมากๆถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ
อย่างเราอ่ะต้องการมากๆ แล้วไปเจอคนที่คิดน้อยๆเราก็ชอบไปว่าเค้าอยู่เรื่อย....เหอะๆเดี๋ยวเรื่องนี้ยาวพอดี พอก่อน
ส่วนที่บ้านเราก็ไม่ค่อยชอบแฟนเราเท่าไหร่แล้ว มองแฟนเราแย่มากกกกกกกกก
เช่นชอบใช้กำลัง จิตใจไม่ดี เฮ้อออ เราเซ็งอ่ะ เพราะมีอีบ้าคนนึงมาพูดถึงแฟนเราไม่ดีให้พ่อแม่เราฟัง
ทำไมเค้าหูเบาจัง เออบางครั้งมันก็เรื่องจริง แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด
สุดท้าย มีแค่เรากะแฟนสองคนเท่านั้นนะที่จะพิสูจน์กันและกัน

 อ่านจบเหมือนกันค่ะ 555
ไม่รู้จะแนะนำยังไงนอกจากให้กำลังใจ
สู้ๆนะคะ  ^[]^ v
 เอาใจช่วยนะค่ะ คุลเป็นคนใจเย็นมาก ถ้าเป็นเราคงเลิกคุย 55+ ขี้เบื่อง่ายอ่ะนะ 
 สู้ๆ ค่ะ      ทึ่ง!! ในความสามารถในการพิมพ์มาก
 ปล.ว่าเเต่ตอนคุยกันกะแฟน คุยภาษา อะรัยกันค่ะ