เปิดกรุ 17 ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวแห้ง-แพ้ง่าย ตั้งแต่ Cleansing ยัน Foundation
paatalee2112สวัสดีค่า หลังจากเจ้าของกระทู้ได้รีวิวลิปสติกไปทั้งหมด 10 ตอนเห็นจะได้ และเนื่องจากได้รับคำถามมากมายว่า จขกท.ใช้อะไร ทำไมหน้าใส ไม่มีสิวงั้นงี้ วันนี้ก็เลยได้ฤกษ์งามยามดีมาบอกต่อของดีๆสำหรับผู้หญิงที่ผิวแห้งและแพ้ง่ายกันบ้างนะคะ จขกท. ผิวแห้งสุดๆและแพ้ง่ายมากๆ ถ้าใช้อะไรแล้วแพ้ปุ๊บจะมีผดแดงๆขึ้นที่ข้างแก้มทันที ส่วนสิวก็มีขึ้นอยู่บ้างค่ะ เช่นพวกสิวฮอร์โมนที่ขึ้นบริเวณใต้คาง สิวอักเสบเม้ดเป้งๆใหญ่ๆ หรือเวลาไปเผชิญมลภาวะอยู่ที่ฝุ่นเยอะๆก็มีสิวเหมือนกันค่ะ และไหนๆก็รีวิวแล้วเลยขอไล่ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าจนถึงรองพื้นกันเลยทีเดียว
ก่อนอื่นขอบอกว่าคนผิวแห้งนั้นมีหลายประเภทและหลายสาเหตุค่ะ
1. ผิวแห้งโดยกำเนิด คือขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ผิวไม่สามารถเก็บกักความชึ่มชื้นไว้ได้
2. ผิวแห้ง เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งเกินไป หรืออากาศหนาวเย็น (โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในห้องแอร์บ่อยๆ) รวมถึงแสงแดด ผู้ที่ตากแดดบ่อยๆก็จะทำให้ผิวแห้งกร้านได้เช่นเดียวกันค่ะ
3. ผิวแห้งเฉพาะบางส่วนของใบหน้าเช่นข้างแก้ม เป็นต้น
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ หลักๆ ผิวแห้งจะมีลักษณะคือ จะมีรูขุมขนที่ค่อนข้างละเอียด แต่ผิวแห้งกร้าน อาจถึงขั้นลอกเป็นขุยๆ (ทำให้แต่งหน้ายากเนื่องจากเครื่องสำอางไม่เกาะผิว) และมักมีปัญหาเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย รวมถึงทำให้เกิดผดผื่นแพ้ได้ง่ายเช่นเดียวกันค่ะ (แตกต่างกับคนผิวมันที่มักมีปัญหาเรื่องสิวและรขุมขนที่อุดตันเนื่องมาจากน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวมีมากเกินไปนั่นเอง)
**และขอบอกว่าผิวหน้าแต่ละคนนั้นก็อาจแพ้ส่วนผสม หรือสารเคมีแต่ละชนิดต่างกันนะคะ บางครั้งจขกท.ใช้แล้วไม่แพ้ ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถใช้ได้ทุกคนค่ะ นี่จึงเป็นเพียงการแนะนำและบอกต่อผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของกระทู้ใช้เองจริงๆและเห็นผล จึงใช้มาอย่างต่อเนื่องและนำมาบอกต่อนะคะ ใครสนใจตัวไหนอาจไปขอลองที่เค้าท์เตอร์นั้นหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบก่อนตัดสินใจซื้อได้ค่า^^
เรื่มกันเลยนะคะ
จะขอเริ่มจากการล้างหน้าก่อนละกันนะคะ
เนื่องจาก จขกท. เป็นคนชอบแต่งหน้าอยู่แล้วตามปกติ ดังนั้นการล้างหน้าให้สะอาดจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากค่ะ และอาจต้องใช้เวลานานหน่อย ถ้ารีบๆล้างอาจทำให้ไม่สะอาดและส่งผลให้สิวขึ้นได้ค่ะ
เริ่มจากด้านซ้ายมือ
1. Biore Perfect Mind Cleansing Liquid สูตรนี้ออกมาใหม่อ่อนโยนต่อผิวใช้สำหรับผิวหน้าและดวงตาได้ค่ะ ที่ขวดจะเขียนไว้ชัดเจน เนื้อผลิตภัณฑ์ลักษณะจะคล้ายๆออยค่ะ แต่มีความนุ่มนวลและไม่มันเท่า กลิ่นหอมอ่อนๆใช้ง่ายค่ะ วิธีใช้คือ กดลงบนฝ่ามือและค่อยๆนวดลงบนผิวหน้าตอนที่หน้ายังแห้งอยู่นะคะ ค่อยๆนวดไปเรื่อยๆให้ทั่วใบหน้าจนเครื่องสำอางละลาย และล้างน้ำออกค่ะ
2. Bioderma Cleansing Water ฝาชมพูสูตรสำหรับธรรมดาถึงผิวแห้งและแพ้ง่าย จะช่วยลดพวกสิวผดด้วยค่ะ หลังจากที่ล้างหน้าไปหนึ่งรอบด้วย ข้อ1 แล้ว ก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ซึ่งเป็นลักษณะน้ำใสๆเทลงบนสำลีและเช็ดทั่วใบหน้าอีกครั้งค่ะ ให้สังเกตว่าหากบริเวณดวงตายังไม่เกลี้ยงให้ใช้คอตตอนบัดชุบ Bioderma และค่อยๆเช็ดแตะเบาๆจนไม่เหลือคราบเครื่องสำอางนะคะ เช็ดจนไม่เหลือคราบเครื่องสำอางที่สำลีค่ะ
3. Arty Professional Cleansing balm สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะเป็นลักษณะบาล์ม กลิ่นหอมสดชื่น ใช้เหมือนกับข้อหนึ่งค่ะ (ซื้อมาเป็นตัวเลือกใช้สลับๆกัน) เวลานวดก็นวดลงบนผิวหน้าที่แห้งเช่นเดียวกันค่ะ จะรู้สึกอุ่นๆคือ บาล์มจะค่อยๆละลายเครื่องสำอางค์ออกจากหน้าเรานั่นเองและตามด้วยล้างน้ำสะอาดอีกเช่นกัน ตัวนี้ทาง BA บอกว่าใช้กับตาได้เช่นเดียวกัน แต่ส่วนตัวลองแล้ว ไม่ค่อยเวิคค่ะ แนะนำว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าใช้กับดวงตาโดยเฉพาะจะดีกว่า
พอหลังจากล้างเครื่องสำอางค์จนเกลี้ยงแล้ว หลายคนอาจล้างแค่น้ำสะอาดเฉยๆนะคะ แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบล้างด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอีกครั้งนึงค่ะ นั่นก็คือ
4. Neutrogena Deep Clean Hydrating Bamboo นั่นเอง เมื่อก่อนก็ลองใช้หลายยี่ห้อสลับๆกันไปค่ะ แต่หลังจากที่ได้อ่านนิตยสารหลายสำนักปรากฏว่าเจ้าตัวนี้ติดอันดับความเริ่ดหลายเล่มมากค่ะ จึงลองซื้อมาใช้ จนถึงตอนนี้ใช้เป็นหลอดที่ 4 แล้วและคาดว่าจะใช้ต่อไปเรื่อยๆยังไม่เจอตัวอื่นที่ดีเท่านี้ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ หลอดนึงไม่เกิน 200 บาท ลักษณะจะเป็นเจลใสๆ กลิ่นหอมอ่อนๆหลังล้างหน้าด้วยตัวนี้แล้ว รู้สึกได้ว่าผิวยังคงความชุ่มชื้น เวลาล้างออกไม่มีเสียงเอี๊ยดๆที่หน้า และไม่ลื่นจนเกินไปเหมอืนล้างไม่สะอาด สรุปคือชอบมากๆค่ะ ซื้อต่อไปแน่นอน
หลังจากล้างหน้าไปแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการบำรุงผิวกันบ้างนะคะ
5. Bioterm Life Plankton Essence นั่นเอง น้ำตบที่เริ่ดจริงอะไรจริง ด้วยส่วนผสมที่เริ่ดมากๆสามารุช่วยบำบัดอาการแพ้และการอักเสบของผิวหน้าได้ ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ามีสิวผดๆเริ่มขึ้น หลังล้างหน้าแล้ว ทาตัวนี้ลงไปผิวหน้ามันดีขึ้นจริงๆค่ะ ใช้ต่อแน่นอน (สรรพคุณและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นี้ยาวมากลองหางานในเว็บต่างๆดูนะคะไล่ไม่หมดจริงๆ)
หลังจากนั้นก็ตามด้วย moisturizer หรือครี่มทาหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นต่อผิวเรานั่นเอง สำหรับจขกท.ใช้
6. GoodSkin TRUE HYDRATION 24H™ Gel Cream ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นในทันที ในขณะเดียวกันก็ช่วยกักเก็บและล็อกความชุ่มชื่นได้ต่อเนื่องและยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ด้วยส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ TH-24 Complex ที่ช่วยเก็บกักและล็อคความชุ่มชื่นได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวันนั่นเอง เนื้อผลิตภัณฑ์จะค่อนข้างบางเบาๆคล้ายครีมเจลเย็นๆ แต่ติดที่จขกท.ไม่ค่อยชอบกลิ่นเท่าไหร่นะคะ คือกลิ่นจะไม่ค่อยหอมออกจะเป็นกลิ่นสารเคมีชัดเจนหน่อยค่ะ ขนาด 50ml ราคาอยู่ที่พันต้นๆค่ะ
ขั้นตอนต่อไปคือ ทาครีมกันแดดค่ะ ออกตัวว่าจขกท. แพ้ครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์นะคะ ปกติเวลาที่จะซื้อผลิตภัณฑ์อะไรมักจะอ่านละเอียดประมาณนึ่งค่ะ จะพยายามเลือกที่มีไม่มีส่วนผสมของพาราเบน และแอลกอฮอล์จะดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่เสี่ยงว่าหน้าจะขึ้นผดผื่นหรือไม่
7. ครีมกันแดดของ Shiseido อันนี้ซื้อมาจากวัตสันค่ะ SPF50 PA+++ ราคาไม่แพง น่าจะ 2-300 บาท จริงเมือก่อนใช้หลายยี่ห้อมากโดยเฉพาะแบรนด์ของญี่ปุ่นจะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมค่อนข้างเยอะ ใช้ไปนานๆหน้าจะเป็นผดๆและเหมือนรูขุมขนจะกว้างขึ้นจึงหยุดใช้ค่ะ จนมาเจอครีมกันแดดของฮาดะลาโบะค่ะ แต่ว่าพอหมดแล้วไปตามหาซื้อยากมาก จึงลองเปลี่ยนมาใช้อันนี้ค่ะ เนื้อครีมจะออกเป็นสีขาวนมๆ เนื้อค่อนข้างบางเบาไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป และเท่าที่อ่านมาไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลจึงเลือกใช้ค่ะ กำลังจะหมดขวดแล้วคาดว่าจะซื้อต่ออีกเช่นเดียวกัน
8. IIllamasqua Hydra Veil primer เป็นเหมือนตัวช่วยก่อนลงลงพื้นหรือ BB ต่างๆค่ะ สรรพคุณที่เค้าเคลมไว้ก็คือ ช่วยให้หน้าดูชุ่มชื้นอิ่มน้ำ เป็นเหมือนการ refresh หน้าและเครื่องสำอางค์ค่ะ ที่สำคัญคือช่วยให้ผลิตภัณฑ์อยู่ทนทั้งวันและไม่ทำให้หน้าหมองระหว่างวันค่ะ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยนะคะ เจ้าตัวนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนแผ่นฟิล์มบางๆ กั้นผิวหน้าเรากับเครื่องสำอาง ไม่ให้เครื่องสำอางเข้าไปอุดตันในรูขุมขนเรานั่นเอง ในกระปุกจะมีช้อนเล็กๆมาให้ ตักผลิตภัณฑ์ออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ย้ำน้อยมากๆนะคะ แต้มลงไป5จุดบนหน้าและค่อยเกลี่ยจนทั่วหน้าค่ะ
ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนรองพื้นหรือ BB, CC ต่างๆกันค่ะ (อย่าเพิ่มเหนื่อยนะคะ อยากจะสวยต้องอดทนค่ะ)
เนื่องจากพวกรองพื้นหรือเบสต่างๆที่ จขกท.ใช้จะมีหลายยี่ห้อสลับๆกันไปค่ะ ไม่ได้เจาะจงว่าวันนี้จะต้องใช้ตัวไหน พูดง่ายๆคือแล้วแต่อารมณ์นั่นเอง แหะแหะ ^^
ขอเรียงจากซ้ายไปขวาก็แล้วกันนะคะ
9. Burberry Sheer Fluid Foundation
10. Burberry Fresh Glow Luminous Fluid Base
สำหรับข้อ 9และ 10 นี้จะใช้คู่กันเสมอค่ะ หมิงจะใช้ผสมกันไปเลยคือ 1 ต่อ 3 เช่น Fresh Glow 1 ต่อ Foundation 3 ค่ะ แล้วผสมกันทาลงบนผิวทีเดียวเลย เนื่องจากว่าคนผิวแห้งมักจะแห้งกร้านดููขาดความชุ่มชื้นความ Glow จึงขาดไมได้จริงๆค่ะ ตัว Fresh Glow จะทำให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสขึ้น ส่วนรองพื้นจะปกปิดปานกลาง เนื้อไม่แห้งจนเกินไปทาแล้วผิวจะดูชุ่มชื้น เกลี่ยง่าย สบายไม่หนักหน้าและปลิ่นหอมอ่อนๆด้วยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวดีอยู่แล้วไม่ต้องการการปกปิดมากนะคะ
11. Yves Saint Laurent LE TEINT TOUCHE ÉCLAT Foundation เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเหลว เกลี่ยง่าย ปกปิดน้อยถึงปานกลางเหมาะกับคนที่ผิวหน้าดีอยู่แล้วไม่ต้องการการปกปิดมากเช่นเดียวกันหากต้องการการปดปิดเพิ่มขึ้นก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์ต่างหากได้ค่ะ ใช้แล้วหน้าจะฉ่ำๆวาวๆ ไม่แนะนำสำหรับคนผิวมันนะคะ (มีหลายเฉดให้เลือกไปลองที่เค้าท์เตอร์ได้ค่ะ)
12. SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION แป้งน้ำในตลับที่ฮิตกันมากมายมาซักพักนึงแล้ว ก่อนหน้านี้ลองใช้ Laneige แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยตอบโจทย์เนื่องจากบางเบาเกินไป พอลองมาใช้ Sulwasoo แล้วปรากฏว่าชอบมากกว่าค่ะ หน้าจะฉ่ำๆเหมาะสำหรับแต่งหน้าบางเบาหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ค่ะ ได้ความรวดเร็วปกปิดได้ดีระดับนึง ทำให้สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น หากมีจุดด่างดำหรือรอยสิว รอยคล้ำใต้ตา แนะนำว่ายังต้องใช้คอนซีลเลอร์นะคะ จขกท.ใช้เบอร์ 23 ค่ะ
ต่อมาแถวล่างนะคะ
13. Etude Nymph AURA Volumer เบอร์ 2 จะออกชมพูมุกๆวาวๆ ช่วยให้หน้าสว่างกระจ่างใส
14. Candy Doll Liquid Foundation (เบอร์ 2) เนื้อจะชุ่มชื้นและไม่เหลวจนเกินไป ปกปิดปานกลาง ยังให้ความฉ่ำและไม่แมทนะคะ
15. Bisous Bisous Crystal Aura Super Star Volumer จะออกชมพูมุกๆวาวๆ ช่วยให้หน้าสว่างกระจ่างใส คุณสมบัติเหมือน Etude Nymph Aura ค่ะ แต่เนื้อผลิตภัณฑ์จะบางเบากว่า
สำหรับหมายเลข 13,14,15 นั้น เวลาใช้ จขกท. จะเอามาผสมกันค่ะ โดยใช้ candy doll เป็นตัวยืนและเลือกระหว่าง Etude หรือ Bisous Bisous มาผสม โดยสัดส่วนก็ 1 ต่อ 3 เช่นเดียวกันค่ะ ใช้พวกที่วาวๆแต่น้อยนะคะ ไม่งั้นหน้าจะฉ่ำเกินไป จนกลายเป็นเหมือนหน้ามันได้ เมื่อผสมกันแล้วทาลงบนผิวหน้าแล้วจะทำให้ผิวหน้าชุม่ฉ่ำกำลังดี สว่างกระจ่างใสขึ้น อยู่ได้ทั้งวันค่ะ (ข้อดูของคนผิวแห้งคือไม่ต้องเติมเครื่องสำอางบ่อยนั่นเอง อยู่ทนอยู่นาน) หลังจากรองพื้นแล้วก็แต่งหน้าตามปกติค่ะ
สุดท้ายก็มาดูครีมสำหรับกลางคืนกันบ้างนะคะ เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วตามที่บอกไปข้างต้น
หลังจากลง Life Plankton Essence แล้ว ก็จะตามด้วย 2 ตัวในรูปนี้ค่ะ
16. Biotherm : Blue Therapy Serum-In-Oil เจ้าตัวนี้สรรพคุณคือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต่อต้านและชะลอการเกิดริ้วรอย และเสริมการบำรุงปราการปกป้องผิวหรือ Skin Barrier ให้แข็งแรงขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวจะมีโอกาสสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ซึ่งมาพร้อมกับเนื้อสัมผัสแบบ Serum-In-Oil ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผิวดั่งออยล์ แต่ให้การบำรุงเข้มข้นและบางเบาดุจเซรั่มนั่นเอง ทำให้ทุกเช้าเมือตื่นขึ้นมาผิวจะเรียบเนียน เปล่งปลั่ง และยืดหยุ่นมากขึ้นนั่นเองค่ะ ขอแนะนำว่าใช้คู่กับ Life Plankton Essence จะดีสุดๆเลยค่ะ เหมือนเค้าผลิตมาเพื่อให้ใช้คู่กันโดยเฉพาะเลย จริงหลังจากทาเจ้าตัวนี้เสร็จก็สามารถเข้านอนได้เลยค่ะ
แต่หากช่วงไหนรู้สึกว่าผิวแห้งมากๆ ก็จะตามด้วย
17. Baby Mind Intensive Lotion for 5 Dry Skin สำหรับเจ้าครีมตัวนี้เหมือนครีมเอนกประสงค์มากๆค่ะ ถ้าได้ทั้งหน้าทั้งตัว เนื้อจะไม่เหนียวข้นมาก แต่ให้ความชุ่มชื้นสูงมากค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนครีมสำหรับเด็ก เวลาที่เป็นหวัดแล้วมีการเช็ดจมูกบ่อยๆทำให้เกิดผิวแห้งลอกเป็นขุย จขกท.ก็จะเอาครีมนี้ทาบริเวณจมูก หรือข้างแก้มที่แห้งแค่ 2-3 วันก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ สามารถนำมาตัว หรือทาเฉพาะจุดที่แห้งเช่น มือ ข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม ต่างๆ ทาได้ตลอดเลยนะคะไม่จำเป็นต้องก่อนนอนอย่างเดียว
และนี่คือหน้าเจ้าของกระทู้เองค่า ไม่ได้ผ่านการแต่งแอปน้าา ถ่ายจากมือถือและแสงธรรมชาติในห้องค่ะ วันนี้ก็แต่งหน้าประมาณนี้ค่ะ ^^
ฮู่วววว.......แฮ่ก แฮ่กๆ ในที่สุดก็หมด บางคนอาจบ่นว่าทำแบบนี้ทุกวันจริงๆเหรอ ต้องตื่นตั้งแต่กี่โมงเนี่ยะ ขอบอกว่าจริงๆนะคะ ใช้จริงทุกตัว ทุกขั้นตอนค่ะ อยากให้ผิวหนาเราดูดีก็ต้องยอมลงทุนให้เวลากับมันหน่อยนะคะ ผิวหน้าดีมีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ ทำให้มั่นใจขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น ติดทนขึ้น ไม่ต้องโบกหนาจนอุดตัน อวดผิวได้สบายๆค่ะ เวลาล้างหน้าเผยผิวหน้าจริงๆก็จะได้ไม่ต้องอายใคร (ที่สำคัญเวลาล้างหน้าให้ถูเบาๆนวดเบาๆนะคะ อย่าถูแรงจะทำให้แก่เร็วนะ) จริงๆถ้าจะให้ไล่แบบละเอียดก็จะมีขั้นตอนที่เยอะกว่านี้อีกค่ะทั้งการทา Eye Cream การมาร์คหน้าหรือเวลามีสิวขึ้นการทายาสิวต่างๆ แต่หลักๆวันนี้ขอเป็นการแชร์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อนนะคะ เพื่อที่ทุกคนสามารถไปทดลองที่เค้าท์เตอร์ หรือลองไปซื้อมาใช้แบบขนาดทดลองก่อนได้ค่ะ แค่นี้ก็น่าจะลองกันแทบไม่ทันแล้ว แหะแหะ
หวังว่าการแชร์ครั้งนี้จะมีประโยชน์ต่อคนที่กำลังกลุ้มใจกับผิวหน้าของตัวเองอยู่บ้างนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
บ้ายบาย
XOXO
By ผู้หญิงบ้าลิป
ขอบคุณมากค่าา กระทู้นี้ช่วยได้เยอะเลยยย อิอิ