[เห่อ + รีวิว] มาเปิดถุงช็อปงาน CMG กันเต๊อะ !!!!
Doughnut :)217สวัสดีค่าสาวๆทุกคนนน !!! <3
แนะนำตัวกันก่อน เราชื่อโดนัทนะคะ :))
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลยแหล่ะ ใหม่สดซิงมาก
ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ที่จีบันด้วยน้าา ^^
วันนี้จะมาเม้าธ์ว่าได้อะไรมาจากงาน CMG บ้าง อิอิ
ท้าวความว่า... คุณพี่สาวเนี่ยกำลังจะรับปริญญาซึ่งเป็นช่วงเดียวกับวันเกิดนาง
อิช้อยก็เลยได้โอกาสอ้อนคุณพ่อว่า "ขุ่นพ่อขาาาา ไปซื้อของขวัญให้ขุ่นพี่กันเถอะค่ะ"
เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองกันเลยทีเดียว
ซึ่งงานนี้ก็ทำ(พ่อ)เรากระเป๋าแบนกันเลยทีเดียว
ครั้งนี้แบรนด์ที่ได้ตังค์จากกระเป๋าเราไปนั่นคือ Laura Mercier นั่นเอง
ส่วนจะไปเป็นอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเล้ยยยย ^^
ไปดูรูปรวมกันก่อนเลยเนอะ
มาดูกันที่ชิ้นแรกเลย
***Laura Mercier Translucent Powder***
เป็นแป้ง Translucent ชื่อดังของเค้า ตัวนี้เราใช้เป็นแป้งเซ็ตรองพื้น โดยที่ไม่ทำให้สีรองพื้นของเราเปลี่ยนเลย ยิ่งใช้เยอะจะได้ลุคที่แมทขึ้น ส่วนตัวเราใช้แปรงปัดแป้งลง จะได้ไม่เยอะเกิน ถ้ารู้สึกน้อยเกินก็สามารถปัดเพิ่มได้ไม่หนาและไม่เป็นคราบ ที่สำคัญคือคุมมันเยี่ยมมาก เพราะส่วนตัวเราเป็นคนหน้ามันสุดๆ เจอตัวนี้ไปนางเอาอยู่ สมคำร่ำลือ แล้วก็ใช้ได้นานสุดๆต่อ 1 กระปุกเลยแหล่ะ
อ้อ ลืมบอกไป ซ์้อของอะไรก็ได้รับสิทธ์ซื้อแป้งตัวนี้ 2 ชิ้น แค่ 2,200 บาทเองนะ คุ้มมากสำหรับคนที่ใช้เป็นประจำ เหมาะแก่การกักตุน 55555
ตัวที่สอง
*** Laura Mercier Foundation Powder ***
เป็นแป้งผสมรองพื้น ใช้มาตลับที่2แล้ว เราใช้เบอร์3 เป็นขาว-กลางอันเดอร์โทนเหลือง ส่วนตัวเราเป็นคน nc 25 รองพื้น NARS ใช้สี Fiji ตัวนี้ก็โอเคนะ เราไว้ปัดทับตัวบนเพื่อดรอปสีรองพื้นให้มันพอดีกับหน้าเรา แล้วมันจะทำให้ติดทนมากขึ้น สิ่งที่ปลื้มของแบรนด์นี้คือ อยู่ทนมากกกกกก คือเติมทีเดียวนางอยู่ไปทั้งวัน เติมตอนมีเหงื่อก็ไม่คราบ แต่ต้องบางๆเข้าไว้ วันไหนรีบๆโบกตัวนี้ตัวเดียวอยู่นะ แต่เปลือง เราไม่ทำ 555555555
ตัวที่สาม
*** Laura Mercier Smooth Finish Flawless Fluid ***
ต้องบอกว่าตอนนี้ขึ้นแท่นมาเป็นรองพื้นลูกรักก็ว่าได้ เป็นรองพื้นที่ปกปิดน้อย-ปานกลาง(อยู่ที่เราลงนะ ส่วนตัวก็บอกได้ว่าปานกลาง) เราใช้สี Macadamia มันจะผ่องกว่าผิวเราไปเฉดนึง อันเดอร์โทนเหลือง ตอนที่เราไปลองเราให้ BA ลอง Golden ครึ่งหน้า และ Macadamia ครึ่งหน้า เนื่องจาก BA เชียร์ Golden แต่อินี่ไม่เชื่อ ผลที่ออกมาคือ Macadamia ผ่องกว่ามาก งามทั้งวัน ท้าวความว่าเคยใช้สี Cashew แล้วเหมือนจะติ่งชมพู หน้านี่เทาเลย พอได้พบกับเนื้อคู่แล้วรู้สึกชีวิตดีไปอีก คือคุณจะได้รองพื้นที่บาง เกือบแมทแต่ไม่แมทเว่อร์ อยู่ทน คุมมันขึ้นสุดในราคาไม่ถึง 2,000 บาท ส่วนตัวเราลงกับมือนะ แล้วเอาฟองน้ำแท๊ปๆๆอีกที จะได้ลุคสบายๆไม่หนักหน้า และติดทนมากๆค่า จะขึ้นรถลงเรือนางไม่หวั่น เช้ายันเย็นจริงๆ
ตัวสุดท้ายแล้ว
*** Laura Mercier Oil free one step cleanser ***
ตัวนี้ได้มาเพราะแรงเชียร์ของ BA นางบอกว่า ขุ่นน้องหน้ามีสิวผดนะคะ เอาตัวนี้ไปลองมั้ย ซึ่งเราก็ได้มาในราคาพันนิดๆ จาก 1,900 มั้งเพราะซื้อครบเท่าไหร่ไม่รู้ (ลืมอะหนูขอโทษ) คือตัวนี้เนี่ย BA เล่าให้ฟังว่าเป็นตัวที่รวม 3 step ใน 1เดียว (อลังการเนอะ) คือมี Cleanser , Foam และ Toner สเต็ปเดียวจบปิ๊ง ล้างออกแม้กระทั่งอายไลเนอร์ มาสคาร่า อ้อ ยกเว้นอายไลเนอร์แบบเจลนะ ปั๊มออกมาจะเป็นแบบโฟมๆ มูสๆ ไม่ต้องตีฟองให้เมื่อย ใช้ครั้งนึง3ปั๊มก็พอ ใช้มาได้อาทิตย์นึงละ ส่วนตัวเราชอบนะ รู้สึกล้างหน้าสะอาด คลีนได้หมดจดดี มาสคาร่าก็ออกจริงๆ ที่รู้สึกชัดเจนก็พวกผดๆกับสิวเสี้ยนบนจมูกนี่แหล่ะ มันลดลงแบบเห็นได้ชัด สิวอะไรก็ไม่มีมาเพิ่ม (ปกติไม่ค่อยเป็นสิวอยู่แล้วนะ เป็นผดๆอย่างเดียว) คิดว่าถ้าหมดก็จะซื้อต่อแหล่ะ
ส่วนกระเป๋าสีแป๋นแหล๋นใบนี้เป็นของแถม ที่แถมมาพร้อมกับไพรเมอร์ oil free มั้ง 30ml อีกสองอัน แล้วนี่ก็ใช้ไพรเมอร์รุ่นนั้นอยู่แล้ว คือปลื้มเลย ปลื้มลืมมมมม ตุนรัวๆ 555 ตัวนี้ซื้อครบ 5,500 จะได้แถมนะ ใส่ของได้เยอะเลยแหล่ะ ดูมีราคา 5555
ส่วนพวกนี้เป็นพวก Voucher คือดีงามนะ รู้สึกเหมือนได้เงินคืน 300 บาท 5555 แต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลย กลัวใช้ไม่ทันมาก และก็ Member Card ของทางแบรนด์ สะสมแต้มอะไรก็ว่าไป
หมดแล้วจ้าาา เป็นไงบ้างคะ ชอบกันมั้ยกับกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดตรงไหนบอกกันด้วยนะ ขอขอบคุณทุกๆคนที่อ่านกระทู้นี้จนจบนะคะ ตื่นเต้นมากๆ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
ไว้วันหลังจะมารีวิวพวก Make Up บ้างแล้วกันนะ เต็มโต๊ะไปหมด
ขอบคุณจากใจอีกครั้งนึงนะคะ บ๊ายบายจ้าาา ^_____^
Discussion (7)