ทดสอบรองพื้น Sola ราคาเบาๆ ที่เค้าบอกว่า...คุณภาพเทียบเท่า Counter Brand

สวัสดีค่าาาา

ช่วงนี้เห็นสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนหวีดร้องกันเรื่องการแต่งหน้าเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปัญหาของเรื่องรองพื้นที่ผิดเบอร์ ผิดฝาผิดตัวได้ตลอด ถ้าไม่คล้ำเกินไป ก็ขาวจนวอก เพราะคิดเอาไว้ว่ามันจะดรอประหว่างวัน จนทำให้หน้าเทาไปเลยก็มี

แล้วไหนจะปัญหาในเรื่องของความเหนียวเหนอะหนะ การอุดตันรูขุมขน รวมถึงการเป็นคราบระหว่างวัน หรือการปกปิดขั้นเทพแบบไม่ต้องให้ผิวได้หายใจหายคอกันเลยก็มี

วันนี้ มาดูรองพื้นเนื้อบาง ที่ทางแบรนด์เค้ามั่นใจ ว่าคุณภาพเทียบเท่ากับรองพื้นเค้าเตอร์แบรนด์ดัง ให้สาวๆ หนุ่มๆ ได้เผยผิวสวยแบบไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่เป็นคราบ ไม่ดรอประหว่างวันอีกด้วยค่ะ

นั่นคือรองพื้นจากแบรนด์ Sola แบรนด์ดังจากเกาหลี ในรุ่น Sola Primer Teint Foundation ซึ่งทางแบรนด์เค้าได้เคลมเอาไว้เกี่ยวกับประสิทธิภาพของรองพื้น ว่าเป็นรองพื้นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความบางเบาเป็นธรรมชาติ สีไม่ดรอประหว่างวัน และเป็นสูตรควบคุมความมันค่ะ

โดยรองพื้นในรุ่นนี้ของ Sola เค้าจะมาด้วยกัน 3 เฉดสี

ซึ่งนอกจากจะมารีวิวเนื้อสีให้ชมแล้ว เรายังจะมาทดสอบประสิทธิภาพของรองพื้นเพื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความบางเบาสบายผิวอย่างแบรนด์ C ที่ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแสนนานในเรื่องความบางเบาสบายผิวนั่นเองค่ะ

การทดสอบของเราจะดูประสิทธิภาพทั้งหมด 6 ด้าน ด้วยกันค่ะ ซึ่งก็คือ

- การคุมมัน

- การปกปิด

- ความกระจ่างใส

- ทดสอบความแห้งไว/บางเบา

- กันเหงื่อ กันน้ำ

- ราคา (ราคาต่อ 1 มล.) โดยจะเปรียบเทียบกันต่อ 1 มิลลิลิตรเลยค่ะ

เรามาเริ่มกันเลยที่การทดสอบเรื่องความมัน โดยในเรื่องของการคุมมัน เราจะดูกัน 2 แบบคือ ความมันจากเนื้อครีม และการทาบนผิว

มาดูกันที่แบบแรกกันก่อน โดยจะทำการหยดเนื้อรองพื้นลงบนกระดาษซับมัน และทิ้งไว้ 15 นาทีค่ะ

และเมื่อทิ้งไว้ 15 นาที ผลที่ออกมาจะเห็นว่าเนื้อครีมแต่ละตัวเริ่มมีความมันกระจายออกมาบ้าง ในระยะที่ใกล้เคียงกัน

มาต่อกันที่ความบางเบาและแห้งไวของรองพื้น ซึ่งจะทำการทดสอบโดยการทารองพื้นทั้ง 2 ตัวลงบนผิว แล้วทิ้งไว้ 30 วินาที แล้วนำกระดาษซับมันซับดูค่ะซึ่งผลออกมาก็คือ ...

ทั้ง 2 แบรนด์เสมอกันค่ะ

กระดาษซับมันทั้ง 2 ตัวแทบจะไม่มีคราบความมันของเนื้อครีมหลงเหลืออยู่เลยค่ะ จะมีของแบรนด์ C ที่มีคราบรองพื้นติดออกมาเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่เห็น และเมื่อแตะดูที่ผิวทั้ง 2 ด้าน ด้านของ C จะค่อนข้างแห้งกว่าเล็กน้อย ต่างจาก Sola ที่จะมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่ค่ะ แต่ก็ไม่มากเกินไป

และการทดสอบด้านต่อไป เพื่อเป็นให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น จะทำการทดสอบบนผิวหน้ากันนะคะ โดยสภาพผิวเป็นคนผิวมัน ปัญหาผิวคือเรื่องของสีผิวไม่สม่ำเสมอ และรอยสิวบนใบหน้าเล็กน้อย

เมื่อทารองพื้นลงบนผิว เนื้อรองพื้นของ Sola จะมีความชุ่มชื่นเล็กน้อยและมีเนื้อที่เหลวกว่าทำให้เกลี่ยง่าย และหลังจากที่ทาก็จะเหลือความชุ่มชื้นที่ผิว แต่ก็ไม่เหนียวหรือเหนอะหนะ

ส่วนรองพื้นของ C จะมีเนื้อที่ข้นกว่าเล็กน้อยนะคะ เมื่อลงรองพื้นที่ผิว จะไม่สามารถทาทิ้งไว้แล้วค่อยเกลี่ย เพราะเนื้อรองพื้นจะแห้งไว และเมื่อลงจนเสร็จก็จะแห้งจนเหมือนกับแป้งไปเลย

และเห็นได้ชัดเจนว่า รองพื้นทั้ง 2 ตัวจะให้การปกปิดในระดับกลางๆ ค่อนข้างจะเผยผิวนิดๆ แต่ก็สามารถจะลงเพิ่มได้ถ้าต้องการการปกปิดที่ดีกว่าเดิม แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่ปกปิดทุกอย่างได้เรียบกริ๊บไปเลยค่ะ

ในเรื่องของความกระจ่างใส อันนี้ก็เทียบกันชัดๆ เลยไม่ได้ เนื่องจากเป็นรองพื้นคนละยี่ห้อ เฉดสีของ C เลยมีเฉดที่สว่างกว่าเล็กน้อยค่ะ จะเห็นได้ว่าเมื่อทาลงบนผิวหน้าฝั่งของ C จะสว่างกว่าเล็กน้อย ส่วนในฝั่งของ Sola จะสีออกโทนเหลืองกว่า และดูเป็นผิวกว่าค่ะ

และเมื่อทิ้งไว้เป็นเวลา 3 ชั่วโมงโดยไม่ทาแป้ง (ทำงานเข้า-ออกห้องแอร์) จะเห็นได้ว่า

ใบหน้าในส่วนที่ทารองพื้น Sola ก็ยังคงมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่ และสีรองพื้นก็ยังคงไม่ดรอปหรือทำให้หน้าหมองลง ส่วนในฝั่ง C เมื่ออยู่ในที่แสงจ้าจะเห็นว่าผิวยังคงแห้งสนิทเหมือนเดิม

เมื่อลองนำกระดาษซับมันมาซับดู ผลออกมาก็พบว่าผิวมีความมันเล็กน้อยเท่านั้น

มาต่อกันที่ การกันเหงื่อ และกันน้ำของรองพื้น จะทดลองเปิดน้ำให้ไหลผ่านค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าผลออกมาจะเป็นยังไงกันบ้าง

จะเห็นว่าตัวรองพื้นทั้ง 2 ตัว สามารถกันน้ำได้ค่อนข้างดี คือไม่ทำให้เป็นคราบ อาจจะมีสีรองพื้นไหลตามน้ำออกมาบ้าง แต่เมื่อซับน้ำออกก็ยังคงติดอยู่ค่ะ

และในด้านสุดท้าย ปริมาณ เมื่อเทียบกับราคา

ในส่วนของรองพื้นแบรนด์ C จะอยู่ที่ราคา 30 ml. 2,400 บาท เฉลี่ยแล้ว มิลลิลิตรละ 80 บาท

ส่วนรองพื้น Sola Primer Teint Foundation ขนาด 30 ml. ราคาเต็มอยู่ที่ 850 บาท เฉลี่ยแล้ว มิลลิลิตรละ 29 บาทค่ะ

และจากการทดสอบประสิทธิภาพทั้ง 6 ด้านกันไปแล้ว ขอสรุปให้เห็นภาพกันได้ง่ายๆ ดังนี้นะคะ

โดยสามารถแยกข้อดี และข้อด้อยของรองพื้นทั้ง 2 ตัวออกมาได้ดังนี้

Sola Primer Teint Foundation SPF20

ข้อดี

1. บางเบาสบายผิว

2. ผิวดูกระจ่างใสและฉ่ำน้ำแบบสาวเกาหลี

3. ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มระหว่างวันแม้ไม่ทาแป้ง

4. ราคาถูก คุ้มค่า

5. ติดทนนาน กันน้ำและเหงื่อได้ดี

6. เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย

ข้อด้อย

1. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ

2. มีเฉดสีให้เลือกเพียง 3 เฉดสี (แต่จริงๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อเสีย เพราะสามารถซื้อมาผสมกันเป็นเฉดสีของเราได้)

แบรนด์ C

ข้อดี

1. บางเบาสบายผิว

2. เนื้อรองพื้นแห้งไวมาก

3. ติดทนนานกันน้ำและเหงื่อได้ดี

4. ผิวดูกระจ่างใส

5. หน้าไม่มันไม่เงาแม้ไม่ทาแป้ง

6. เฉดสีมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย

ข้อด้อย

1. ราคาแพงเมื่อเทียบกับปริมาณ

2. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ

3. ไม่เหมาะกับคนหน้าแห้งและผิวผสม

4. เนื้อรองพื้นเกลี่ยยาก เพราะแห้งเร็ว

หวังว่าเพื่อนๆ คงได้ข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะคะ แล้ววันหลังจะมีรีวิวสินค้าเด็ดๆ ตัวไหนอีก ต้องมาติดตามกันต่อนะคะ

Discussion (3)

โอ้.....เราก็ใช้ตัวนี้คุมมันได้จริงบางเบาอย่างในรีวิวเลยอะ Every Day look สุดๆแต่ราคาเราจำได้ว่าเราซื้อได้ถูกกว่าจขกท นะ