ทดสอบรองพื้น Sola ราคาเบาๆ ที่เค้าบอกว่า...คุณภาพเทียบเท่า Counter Brand
taririta93สวัสดีค่าาาา
ช่วงนี้เห็นสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนหวีดร้องกันเรื่องการแต่งหน้าเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปัญหาของเรื่องรองพื้นที่ผิดเบอร์ ผิดฝาผิดตัวได้ตลอด ถ้าไม่คล้ำเกินไป ก็ขาวจนวอก เพราะคิดเอาไว้ว่ามันจะดรอประหว่างวัน จนทำให้หน้าเทาไปเลยก็มี
แล้วไหนจะปัญหาในเรื่องของความเหนียวเหนอะหนะ การอุดตันรูขุมขน รวมถึงการเป็นคราบระหว่างวัน หรือการปกปิดขั้นเทพแบบไม่ต้องให้ผิวได้หายใจหายคอกันเลยก็มี
วันนี้ มาดูรองพื้นเนื้อบาง ที่ทางแบรนด์เค้ามั่นใจ ว่าคุณภาพเทียบเท่ากับรองพื้นเค้าเตอร์แบรนด์ดัง ให้สาวๆ หนุ่มๆ ได้เผยผิวสวยแบบไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่เป็นคราบ ไม่ดรอประหว่างวันอีกด้วยค่ะ
นั่นคือรองพื้นจากแบรนด์ Sola แบรนด์ดังจากเกาหลี ในรุ่น Sola Primer Teint Foundation ซึ่งทางแบรนด์เค้าได้เคลมเอาไว้เกี่ยวกับประสิทธิภาพของรองพื้น ว่าเป็นรองพื้นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความบางเบาเป็นธรรมชาติ สีไม่ดรอประหว่างวัน และเป็นสูตรควบคุมความมันค่ะ
โดยรองพื้นในรุ่นนี้ของ Sola เค้าจะมาด้วยกัน 3 เฉดสี
ซึ่งนอกจากจะมารีวิวเนื้อสีให้ชมแล้ว เรายังจะมาทดสอบประสิทธิภาพของรองพื้นเพื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความบางเบาสบายผิวอย่างแบรนด์ C ที่ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแสนนานในเรื่องความบางเบาสบายผิวนั่นเองค่ะ
การทดสอบของเราจะดูประสิทธิภาพทั้งหมด 6 ด้าน ด้วยกันค่ะ ซึ่งก็คือ
- การคุมมัน
- การปกปิด
- ความกระจ่างใส
- ทดสอบความแห้งไว/บางเบา
- กันเหงื่อ กันน้ำ
- ราคา (ราคาต่อ 1 มล.) โดยจะเปรียบเทียบกันต่อ 1 มิลลิลิตรเลยค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยที่การทดสอบเรื่องความมัน โดยในเรื่องของการคุมมัน เราจะดูกัน 2 แบบคือ ความมันจากเนื้อครีม และการทาบนผิว
มาดูกันที่แบบแรกกันก่อน โดยจะทำการหยดเนื้อรองพื้นลงบนกระดาษซับมัน และทิ้งไว้ 15 นาทีค่ะ
และเมื่อทิ้งไว้ 15 นาที ผลที่ออกมาจะเห็นว่าเนื้อครีมแต่ละตัวเริ่มมีความมันกระจายออกมาบ้าง ในระยะที่ใกล้เคียงกัน
มาต่อกันที่ความบางเบาและแห้งไวของรองพื้น ซึ่งจะทำการทดสอบโดยการทารองพื้นทั้ง 2 ตัวลงบนผิว แล้วทิ้งไว้ 30 วินาที แล้วนำกระดาษซับมันซับดูค่ะซึ่งผลออกมาก็คือ ...
ทั้ง 2 แบรนด์เสมอกันค่ะ
กระดาษซับมันทั้ง 2 ตัวแทบจะไม่มีคราบความมันของเนื้อครีมหลงเหลืออยู่เลยค่ะ จะมีของแบรนด์ C ที่มีคราบรองพื้นติดออกมาเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่เห็น และเมื่อแตะดูที่ผิวทั้ง 2 ด้าน ด้านของ C จะค่อนข้างแห้งกว่าเล็กน้อย ต่างจาก Sola ที่จะมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่ค่ะ แต่ก็ไม่มากเกินไป
และการทดสอบด้านต่อไป เพื่อเป็นให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น จะทำการทดสอบบนผิวหน้ากันนะคะ โดยสภาพผิวเป็นคนผิวมัน ปัญหาผิวคือเรื่องของสีผิวไม่สม่ำเสมอ และรอยสิวบนใบหน้าเล็กน้อย
เมื่อทารองพื้นลงบนผิว เนื้อรองพื้นของ Sola จะมีความชุ่มชื่นเล็กน้อยและมีเนื้อที่เหลวกว่าทำให้เกลี่ยง่าย และหลังจากที่ทาก็จะเหลือความชุ่มชื้นที่ผิว แต่ก็ไม่เหนียวหรือเหนอะหนะ
ส่วนรองพื้นของ C จะมีเนื้อที่ข้นกว่าเล็กน้อยนะคะ เมื่อลงรองพื้นที่ผิว จะไม่สามารถทาทิ้งไว้แล้วค่อยเกลี่ย เพราะเนื้อรองพื้นจะแห้งไว และเมื่อลงจนเสร็จก็จะแห้งจนเหมือนกับแป้งไปเลย
และเห็นได้ชัดเจนว่า รองพื้นทั้ง 2 ตัวจะให้การปกปิดในระดับกลางๆ ค่อนข้างจะเผยผิวนิดๆ แต่ก็สามารถจะลงเพิ่มได้ถ้าต้องการการปกปิดที่ดีกว่าเดิม แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่ปกปิดทุกอย่างได้เรียบกริ๊บไปเลยค่ะ
ในเรื่องของความกระจ่างใส อันนี้ก็เทียบกันชัดๆ เลยไม่ได้ เนื่องจากเป็นรองพื้นคนละยี่ห้อ เฉดสีของ C เลยมีเฉดที่สว่างกว่าเล็กน้อยค่ะ จะเห็นได้ว่าเมื่อทาลงบนผิวหน้าฝั่งของ C จะสว่างกว่าเล็กน้อย ส่วนในฝั่งของ Sola จะสีออกโทนเหลืองกว่า และดูเป็นผิวกว่าค่ะ
และเมื่อทิ้งไว้เป็นเวลา 3 ชั่วโมงโดยไม่ทาแป้ง (ทำงานเข้า-ออกห้องแอร์) จะเห็นได้ว่า
ใบหน้าในส่วนที่ทารองพื้น Sola ก็ยังคงมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่ และสีรองพื้นก็ยังคงไม่ดรอปหรือทำให้หน้าหมองลง ส่วนในฝั่ง C เมื่ออยู่ในที่แสงจ้าจะเห็นว่าผิวยังคงแห้งสนิทเหมือนเดิม
เมื่อลองนำกระดาษซับมันมาซับดู ผลออกมาก็พบว่าผิวมีความมันเล็กน้อยเท่านั้น
มาต่อกันที่ การกันเหงื่อ และกันน้ำของรองพื้น จะทดลองเปิดน้ำให้ไหลผ่านค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าผลออกมาจะเป็นยังไงกันบ้าง
จะเห็นว่าตัวรองพื้นทั้ง 2 ตัว สามารถกันน้ำได้ค่อนข้างดี คือไม่ทำให้เป็นคราบ อาจจะมีสีรองพื้นไหลตามน้ำออกมาบ้าง แต่เมื่อซับน้ำออกก็ยังคงติดอยู่ค่ะ
และในด้านสุดท้าย ปริมาณ เมื่อเทียบกับราคา
ในส่วนของรองพื้นแบรนด์ C จะอยู่ที่ราคา 30 ml. 2,400 บาท เฉลี่ยแล้ว มิลลิลิตรละ 80 บาท
ส่วนรองพื้น Sola Primer Teint Foundation ขนาด 30 ml. ราคาเต็มอยู่ที่ 850 บาท เฉลี่ยแล้ว มิลลิลิตรละ 29 บาทค่ะ
และจากการทดสอบประสิทธิภาพทั้ง 6 ด้านกันไปแล้ว ขอสรุปให้เห็นภาพกันได้ง่ายๆ ดังนี้นะคะ
โดยสามารถแยกข้อดี และข้อด้อยของรองพื้นทั้ง 2 ตัวออกมาได้ดังนี้
Sola Primer Teint Foundation SPF20
ข้อดี
1. บางเบาสบายผิว
2. ผิวดูกระจ่างใสและฉ่ำน้ำแบบสาวเกาหลี
3. ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มระหว่างวันแม้ไม่ทาแป้ง
4. ราคาถูก คุ้มค่า
5. ติดทนนาน กันน้ำและเหงื่อได้ดี
6. เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย
ข้อด้อย
1. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ
2. มีเฉดสีให้เลือกเพียง 3 เฉดสี (แต่จริงๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อเสีย เพราะสามารถซื้อมาผสมกันเป็นเฉดสีของเราได้)
แบรนด์ C
ข้อดี
1. บางเบาสบายผิว
2. เนื้อรองพื้นแห้งไวมาก
3. ติดทนนานกันน้ำและเหงื่อได้ดี
4. ผิวดูกระจ่างใส
5. หน้าไม่มันไม่เงาแม้ไม่ทาแป้ง
6. เฉดสีมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย
ข้อด้อย
1. ราคาแพงเมื่อเทียบกับปริมาณ
2. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ
3. ไม่เหมาะกับคนหน้าแห้งและผิวผสม
4. เนื้อรองพื้นเกลี่ยยาก เพราะแห้งเร็ว
หวังว่าเพื่อนๆ คงได้ข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะคะ แล้ววันหลังจะมีรีวิวสินค้าเด็ดๆ ตัวไหนอีก ต้องมาติดตามกันต่อนะคะ
Discussion (3)