REVIEW [ 12 ลิปบาล์มคู่ปาก ฉบับราคาเอื้อมถึง จะดีจะพังมาดู๊มาดู]

สวัสดีค่ะสาวๆครั้งนี้แตไม่ได้มารีวิวของโปรดประจำเดือนแต่มารีวิวลิปบาล์ม 12 ยี่ห้อ ที่เคยใช้ ทั้งราคาถูกและราคาสูงแต่แตจะเน้นของถูกเป็นหลักเพราะงบน้อย ^______________^

บางยี่ห้อต้องขอใช้รูปจากอินเตอร์เน็ตนะคะ พอหมดก็ทิ้งไปแล้วซะส่วนใหญ่ บ้างก็หาย บ้างก็ให้คนอื่นไป บ้างก็โหดร้ายเกินกว่าจะทนเก็บไว้ได้

มาเริ่มกันเลยดีกว่า

1. สำหรับตัวแรก Maybelline baby lips ทั้งแบบมีสีและไม่มีสี (89 บาท)

สำหรับตัวไม่มีสี กลิ่นที่แตใช้คือ Lychee addictมีช่วงนึงแตบ้าใช้ ทาตลอดเวลา ผลลัพธ์คือปากชมพูขึ้นจากเสียงทักของหลายๆคน ให้ความชุ่มชื่นในระดับนึงแต่ไม่ติดทน แปปเดียวก็หายไปและมีความมันสูง พอทาไปก็ดูเคลือบปากมันๆคะแนน 8/10 หัก 2 คะแนนที่หมดไวและมันเกินสำหรับตัวมีสี แตใช้สี Berry crushรุ่นนี้ใช้ไม่บ่อย เอาไว้เติมระหว่างวันหรือกินข้าวเสร็จ ถ้าไม่อยากทาปาก ทาง่าย ให้สีแดงระเรื่ออ่อนๆ ธรรมชาติ ไม่มันเท่าตัวไม่มีสี ให้ลุคบางๆ เบาๆ ออกไปปากซอยหรือหน้าคลีนๆได้เลยข้อเสีย คือ ทามากปากเป็นขุยๆแบบหนังปากลอก ถ้าปากไม่ชุ่มชื่นอยู่แล้วไปทาปากจะยิ่งแห้งและไม่ค่อยชุ่มชื่นคะแนน 8/10 หักที่ ไม่ชุ่มชื่น เป็นขุยแต่ดีที่ไม่มันเป็นสาวกินข้าวมันไก่

2. Canmake Stay-On Balm Rouge #02 (290 บาท)

ตัวนี้อยากได้มานาน ใจจริงอยากได้สีม่วง สำหรับแต ราคาค่อนข้างสูงในราคาของลิปบาล์ม แท่งละเกือบ 300 บาท แต่ตัวนี้ได้มาในราคาร้อยกว่าบาทหรือไม่ถึงร้อยเนี่ยแหละค่ะ ได้มาจากงานเซลล์ Canmake สักพักใหญ่ๆแล้ว ใช้ติดกระเป๋าแทน Maybelline ตัวมีสี ด้วยแพคเกตที่มันน่ารักมุ้งมิ้ง ผู้หญิ๊งผู้หญิงด้วยแหละ แต่คุณภาพก็ไม่ต่างกันเท่าไร ให้สีส้มอ่อนๆ ไม่มันแต่เหนียวปากและไม่ชุ่มชื่น ยังดีที่เพิ่มสารกันแดดมาให้

คะแนน 7/10 หักที่ไม่ชุ่มชื่น เหนียวปากและปากเป็นขุยถ้าพื้นปากเดิมไม่ชุ่มชื่นอยู่แล้ว

3.เภสัช ลิปบาล์มทั้งรุ่นตลับกลมและหลอดสีชมพู (ราคา 10-79 บาท)

สำหรับรุ่นตลับกลม ตั้งแต่จำความได้นี่คือลิปบาล์มยี่ห้อแรกที่เคยเห็น เคยรู้จัก เคยใช้เลยมั้งคะ จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยเห็นแม่ใช้ แอบเอามาทาบ่อยๆโดยไม่รู้ว่าคืออะไร รู้แค่ทาปาก มีนอแต่เด็ก 55555 ตัวนี้ยกให้เป็นที่ 1 จริงๆ

ด้วยความที่ไม่มันเกินไป ให้สีชมพูอ่อนๆ ชุ่มชื่นมากและราคาถูกมาก แค่ 10 บาท หาซื้อก็ง่าย 7-11 มีขาย เป็นลิปที่มีติดบ้านไว้ตลอด ไม่ว่าจะใช้ลิปอะไร สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่ตัวนี้แต่สำหรับแตลิปแบบใช้นิ้วจิ้มๆ มันค่อนข้างสกปรก ใช้ยากและด้วยแตชอบไว้เล็บยาวมันยิ่งจิ้มยากแต่เจ้าตัวนี้มันเล็กกระจิ๊ดสมราคา ปาดผิวหน้าบางๆก็โอเค ไม่เลอะติดซอกเล็บ

คะแนน 10/10

สำหรับรุ่นหลอด รุ่นนี้เพิ่งออกมาได้สักพัก เคลมไว้ว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากหมองคล้ำและแห้งแตกมาก ตัวนี้แตยังใช้ได้ไม่นาน ก็ชอบนะคะ ใช้สะดวกดี ไม่เลอะมือ ทาปากไปเลย ตรงฝากจะแนวปาดๆคล้ายทรงลิปสติกก็เลยทาง่าย ไม่มันมากและชุ่มชื่นอยู่

คะแนน 9/10 ขอหัก 1 คะแนน เนื่องจากยังใช้เวลาอยู่ร่วมปากกันน้อยไปหน่อย

4.Puffguin baby’s natural papaw ointment (299 บาท)

เป็นออยเมนต์ที่เคลมว่าอ่อนโยนต่อเด็ก ใช้ทาได้ทั้งปาก มือ ส่วนที่แห้งและในออสเตรเลียนิยมใช้กับเด็กๆมาก โดยเฉพาะพวกลอยยุงกัด แมลงกัด ราคาค่อนข้างสูงสำหรับแต ปริมาณ 30g ซื้อมาเพราะอยากลองใช้ Lucus papaw แต่มันหาซื้อยาก ตัวนี้วัตสันมีขาย ง่ายดี หลังใช้ไม่ได้รู้สึกว่าบำรุงอะไรพิเศษ เน้นกักเก็บความชุ่มชื่นมากกว่า มันมาก ใช้ปริมาณเล็กน้อยก็พอไม่นั้นปากมันเยิ้มเลย อยู่ทน ใช้ทามือจะหนึบๆแต่ก็แห้งไวแต่เป็นความรู้สึกที่ไม่ดีสักเท่าไร ใช้ครีมทามือแยกต่างหากดีกว่า เฉยๆกับตัวนี้

คะแนน 7/10 หักที่ค่อนข้างแพง ไม่ได้บำรุงอะไรมากมาย เหมือนทาปิโตเรียมเจลเฉยๆ มันมาก

5.EOS ลิปไข่ กลิ่น Lemon drop (ราคา 300 บาท)

ลิปไข่นี่ใช้นานมากแล้ว ไม่ปลื้มจริงๆ ขอลาขาด ใช้ตั้งแต่สมัยเค้าฮิตๆกันเมื่อหลายปีก่อน ไปสอยมาในราคา 300 กว่า สำหรับแตมันแพงมากในวัยมัธยม

แพคเกตดูน่ารักดีแต่ด้วยความที่มันกลมๆใหญ่ๆทำให้พกพายากและเนื้อมันจะลื่นๆหยุ่นๆสกปรกง่ายมาก ให้อารมณ์ตลับ Nars เลอะเทอะง่าย เนื้อเละมาก ทนในระดับหนึ่ง กลิ่นหอมโอเค ช่วงแรกๆที่ใช้รู้สึกชอบนะคะ ชุ่มชื่นดี ทาทีละน้อย ไม่มันมากแต่หลังจากใช้ได้ไม่นานยิ่งใช้ยิ่งรู้สึกปากหนาๆเหมือนหนังปากมันเป็นชั้นๆ หนักปากมาก พยายามขัดปาดก็ไม่ออก เลยคิดว่าตัวเองทาเยอะไป เลยทาให้น้อยลง ก็ยังเป็นอยู่และหลังจากนั้นปากแห้งมากๆ กลายเป็นคนปากพังเลยเลิกใช้ ทิ้งไปเลย กลัวมาก แต่ก็คิดว่าซื้อมาจาก The one ข้าง เซ็นทรัลลาดพร้าว อาจจะปลอมแต่ไม่ค่ะ คนรอบกายทั้งพี่ชาย เพื่อน ใช้แล้วเป็นเหมือนกันหมด

คะแนน 2/10 ยังให้ที่แพ็คเกตน่ารักและกลิ่นหอม

6. Lifeford lipcare สีแดงและสีน้ำตาล (ราคาประมาณ 70 บาท)

สำหรับตัวสีน้ำตาล คือ รุ่น Detox  ตัวนี้ปลื้มมาก ชุ่มชื่น ไม่มันเยิ้ม ปากดีขึ้นมาก ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ติดทนนานจริงๆแต่เสียตรงที่หมดไวไปหน่อย

คะแนน 9/10 หักที่หมดไว

สำหรับตัวสีแดง คือ รุ่น Sweet fruity ซื้อหลังจากลองใช้ตัวสีน้ำตาล ไม่ปลื้มเท่าไร มีสีชมพูระเรื่อ กลิ่นหอมผลไม้อ่อนๆ หวานนิดๆ ไม่ค่อยทน มันมาก ชุ่มชื่นแต่ไม่เท่าสีน้ำตาล ปริมาณ 37g

คะแนน 8/10 หักที่มันมากและไม่ทน

7.Burt’s bees beeswax lip balm (ราคา 280 บาท)

แตชอบเนื้อลิปนะคะ เนื้อมันไม่เหลว ทาแล้วไม่มัน หมดยาก เย็นปากๆแต่ชุ่มชื่นไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เสียที่ราคาแพงและเมื่อก่อนหาซื้อยาก เดี๋ยวนี้ดีหน่อยมีขายที่วัตสัน แต่แตใช้ได้ไม่นาน ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ต้องโบกมือลากันเพราะลืมไว้ในกระเป๋ากระโปรงและถูกนำไปปั่นในเครื่องซักผ้าเรียบร้อย อวสารเจ้าลิปขี้ผึ้งของข้า T^T

คะแนน 8/10 หักที่ราคาค่อนข้างสูง หาซื้อยากและใช้เวลทำความรู้จักกันน้อยเกินไป

8.Nivea Lips Essential Care (ราคา 79 บาท)

ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ดีและหาซื้อง่าย มีขายทั่วไปตาม 7-11 ไม่ได้บำรุงอะไรมากมายแต่ให้ความชุ่มชื่นและติดทนสูง ไม่มีกลิ่น ไม่หนักปาก เสียที่มันและฝาแตกง่ายมาก ฝาไม่ค่อยแน่นค่ะ หลายเสียงที่ได้ยิน ได้แว่วมาไม่ปลื้มกันสักเท่าไร โดยเสียงส่วนมากบอกว่าใช้แล้วปากดำ แต่สำหรับแตเป็นลิปบาล์มที่ดีตัวนึงเลย มีพกติดกระเป๋าไว้ไม่เสียหาย ใช้แล้วปากก็ไม่ได้นำแต่ก็ไม่ได้ชมพูขึ้น ไม่รู้จะซื้ออะไรก็ซื้อเจ้าตัวนี้นี่แหละ

คะแนน 8/10 หักที่มันและฝาแตกง่ายค่ะ

* เรื่องของลิปบาล์มบำรุง แตคิดว่า point หลักของมัน คือ ให้ความชุ่มชื่น ฟื้นฟูความแห้งแตกมากกว่า ประเด็นอื่นๆมันเป็นแค่เรื่องลอง อีกอย่าง ขึ้นอยู่กับพื้นสีปากเดิมด้วย บางทีลิปบาล์มมันอาจจะไม่ได้ทำให้ปากดำก็ได้ ที่รู้สึกว่าปากดำขึ้น ไม่แน่อาจจะเป็นเพราะลิปสติกที่ใช้ ไม่ได้คุณภาพหรือหมดคุณภาพที่ดีไปแล้วหรือเปล่า บางคนใช้ลิปสติก 5 บาท 10 บาท ที่ไม่ได้รับการรับรอง ไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปบ้าง ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สีปากมันคล้ำขึ้น ถูปากแรงๆก็เป็นส่วนหนึ่ง ต่อให้ใช้ลิปบาล์มราคาแพง ยี่ห้อดังแค่ไหนก็คงไม่ได้ช่วยมาก ต้องดูภาพรวมด้วยว่า ปากนี่ผ่านอะไรมาบ้างนะคะ

9. สีผึ้งแม่เลียบทั้งแบบตลับและแบบหลอด (ราคา 25-85 บาท)

ทั้ง 2 แบบมีคุณสมบัติเหมือนกัน คือ ให้ความชุ่มชื่น ปรับสีปากให้ชมพูขึ้น ไม่มัน ผลเป็นตามนั้นจริงๆแต่เสียที่เหนียวหนืดมาก ทามากๆเกรงว่าปากจะเหี่ยวจากการเสียดสีหนักและล้างยากมากๆ แตใช้ทาก่อนนอน เพื่อเก็บล๊อคความชุ่มชื่นไว้ ตื่นมาปากเนียนเชียว

แบบตลับ ราคา 25 บาท ไม่ชอบแบบตลับตรงที่เนื้อมันหนืดแล้วพอติดซอกเล็บบรรลัยมาก

แบบหลอด ราคา 85 บาท

คะแนน 9/10 หักที่เหนียวและล้างยากมาก

10. Blistex berry lip balm (ราคา 85 บาท)

หลังใช้งานได้ 1 เดือน พบว่าเฉยๆ ชุ่มชื่นปานกลาง ไม่มัน ไม่ทนเท่าไร กลิ่นหอมอ่อนๆแต่ไม่เบอร์รี่อะ เป็นกลิ่นที่บอกไม่ถูก ชอบกลิ่นนะ ผ่อนคลายดี ไม่มีสี เนื้อไม่หนัก ไม่เละ แตไม่อินเท่าไร คือ เฉยๆ งั้นๆ ไม่หวือหวาค่ะ บอกลากันไปด้วยความโง่ ทาเสร็จทิ้งไว้บนรถ กลับมาอีกที แม่เจ้า ที่รักทำไมเธอกลายเป็นหนองน้ำอยู่ที่ช่องเล็กๆใส่ของข้างประตูคนขับไปได้ กว่าจะทำความสะอาดให้ความมันหายไปได้ พ่อแทบกินหัวข้า T^T

คะแนน 7/10 หักที่ความโง่ของตัวเองและเฉยๆ ไม่อิน ให้เท่านี้พอ มีไรม๊ะ ? (เข้าสู่โหมด คุณหนูอารมณ์ร้าย 5555)

11. Carmex สมัยแพคเกตเก่า (ราคาจำไม่ได้)

ใช้เมื่อนานมากๆแล้ว ไม่รู้ราคาจริงๆ สมัยแพคเกตเก่า ตั้งแต่ยังไม่เข้าไทย นานโขมาก ตอนนั้นชอบมาก ชุ่มชื่นดี ไม่มันและที่สำคัญชอบกลิ่นมาก อยู่ทนสมัยก่อนกลิ่นมันเหมือนคาราเมลเลย รักมากๆ จนมันหายไป พอกลับมาลองใช้รุ่นใหม่ๆ กลิ่นมันไม่เหมือนเดิม เลยไม่ได้สนใจอีกเลยและด้วยแพคเกตแบบกระปุก มันสกปรกและเลอะเทอะเล็บ แตเลยไม่ปลื้ม

คะแนน 8/10 หักที่สมัยนี้มันกลิ่นประหลาดๆและเลอะเทอะ

*ดีที่มีแบบแท่งนะคะ เลิศ

12. Vaseline petroleum jelly (ราคา 55 บาท)

กระปุกไซส์เล็กปกติที่มีขายตามห้างทั่วไปนะคะ เจ้านี่เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้าน ถึงแม้จะรู้สึกเฉยๆแต่ก็ต้องมีไว้ ไม่ได้บำรุงอะไรเลย ก็มันเป็นแค่ปิโตเรียม เจลลี่อะเน๊าะ เจ้าตัวนี้มันมีหน้าที่แค่กักเก็บความชุ่มชื่นบนผิวแค่นั้นเอง มีพกติดบ้านไว้อุ่นใจ บางทีก็เอามาทาตามรอบพับ เช่น ข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม ส้นเท้าแต่ปากก็ทานะ ใช้ผสมมั่วไปหมด สกปรกก็ตรงนี้ 5555 แต่แตไม่ชอบตรงทีมันเป็นกระปุกแล้วมันต้องเอานิ้วจิ้มลงไป มันเลอะเทอะ ยิ่งเล็บยาวยิ่งติดเล็บและมันกระปุกลึก มันเอานิ้วปาดบางๆไม่ได้ มันต้องจิ้มลงไปเลยไม่ชอบและด้วยความที่มันมากๆ เวลาเอามาทาเท้าแล้วเดินในบ้านนี่ หม่อมแม่องค์ลงทุกที

คะแนน 8/10 หักที่มันและใช้ลำบากแล้วกัน

จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวทั้ง 12 ยี่ห้อที่แตเคยใช้มาและพอจะจำได้ บางยี่ห้อไม่มีรูปจริง เลยไปยืมรูปในเน็ตมาต้องขออภัยด้วย แต่ยืนยันว่าใช้งานจริงทุกชิ้นค่ะ 

คะแนนส่วนมากของแต่จะให้ที่ 8/10 เพราะมันก็มีข้อดีและข้อเสียทุกตัวค่ะ ขึ้นอยู่กับคำเคลมและผลลัพธ์ที่ได้ของผลิตภัณฑ์หลังการใช้ ก็ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพปาก ณ ปัจจุบันนะคะ 

ส่วนเจ้าลิปบาล์มเภสัชที่แตให้ 10/10 แตขอแนะนำเป็นเจ้าตัวลิปแบบหลอดนะคะ ถึงจะมีเวลาใช้น้อยแต่รู้สึกว่าดีไม่ต่างจากเจ้าตัวตลับกลมเลย แถมยังพกพาสะดวก ใช้งานง่ายอีก ที่สำคัญเป็นของไทยก็น่าจะช่วยกันอุดหนุนเยอะๆนะคะ ของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ

ถ้าเพื่อนๆสนใจหรือมีคำถามเพิ่มเติมที่ตรงไหนสอบถามทางกล่อง comment และช่องทางต่างๆอย่าง facebook ได้ตลอดนะคะขออภัยในความผิดพลาดและยินดีรับคำติชม แก้ไขค่ะ

วันนี้ลากันไปก่อน ขอบคุณค่ะ

Discussion (3)