[EVOHOLIC] ไหน...ใครว่าชั้นอ้วน?? ชั้นไม่อ้วน by หนูคิส

ปี 2005

"อ้วนจนจำไม่ได้เลย"

คำนี้เป็นคำที่คิสได้ยินอยู่เรื่อยๆ ด้วยส่วนสูงราวๆ 155 ณ ตอนนั้น ต่อพิกัดน้ำหนักตัว 60 กิโล

เพื่อนบอก ป๊าบอก มี๊บอก แต่อาม่าไม่บอก เพราะอาม่าจำหลานตัวเองไม่ได้ไปแล้ว!!

คิสสวนเสมอว่า "อ้วนตรงไหน ไม่เห็นรู้สึกเลย"

ไม่ใช่อยากจะต่อต้านสังคม แต่ตอนนั้นคิสไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองกลายเป็นหนูสูงอายุตัวอ้วนพีเหมือนตกถังข้าวสารร้านเฮียซ้ง

คิสใส่เสื้อผ้าเก่าๆไม่ได้อีกต่อไป ชุดยางยืดก็ยืดดดดออกไปจนมันเต่งตึงไปหมด รัดจนเอวเจ็บเป็นรอย ใครเกิดมาผอมคงไม่เข้าใจความรู้สึกอันเจ็บปวดนี้ มีแต่กางเกงเลเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ เครื่องชั่งน้ำหนักคือศัตรูถาวร

แต่นั่นก็มิได้นำพา คิสปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปจนวันที่อึดอัด นอนไม่ได้เพราะอ้วน

ไม่ฮานะ นอนไม่ได้เพราะอึดอัดพุง นอนท่าไหนก็นอนไม่หลับ คอมีไขมันมาพอกจนเหนียงขึ้นเป็น double chin ส่วนอื่นๆของร่างกายไม่ต้องพูดถึง

อ้วนยันนิ้ว!!

ถึงเวลาปฏิวัติตัวเองด้วยการล้วงคอ อดอาหาร ทุกอย่างที่ไม่ใช่การออกกำลังกาย

ช่วงที่น้ำหนักเริ่มลดลง

คิสจะมาเล่าวิธีที่คิส "ลดเปอรเซนต์ไขมัน" และ "เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ" ในวันหลังนะคะ

วันนี้จะเล่าเรื่องวิวัฒนาการของตัวเองล้วนๆ

เรียกว่าช่วงเวลาการลดนำหนักจาก 60 ให้เหลือ 48 กิโล นับเป็น 12 กิโลที่ยิ่งใหญ่และ EPIC ยิ่งกว่า Game of Thrones ทุกซีซั่นมัดตึงรวมกัน

เพราะมันยาวนานมากกกกกกกก คิสลองผิด ลองถูก และค่อนไปทางผิดมากกว่าถูก

จนตอนคิสอายุ 31 คิสก็เริ่มต้นการออกกำลังกายแบบ "Body Weight"

"เวท" แค่ได้ยินสาวๆคงส่ายหัวกัน คิสก็ด้วย คิสก็ไม่ได้อยากจะเล่นเลย

คิสถูกกึ่งๆบังคับด้วยรุ่นพี่ในที่ทำงาน เพราะเค้าต้องการ partner ออกกำลังกาย จะได้ไม่เบื่อ ก็งงเหมือนกันว่า ทำไมการเบื่อต้องระงับด้วยการเบื่อของคนอื่นอีก เบียดเบียนมากกกกกกกกกกกกกก แกกลัวเบื่อ เลยมาให้ชั้นเบื่อแทน????

แต่นั่นนับเป็นการเบิกกะลาคิสอย่างแท้จริง

เรื่องการออกกำลังกาย Body Conscious Journey คิสจะยกไปไว้โพสอื่นหมดเลยคะ ไม่งั้นคืนนี้คงไม่ได้นอนแน่ๆ

คิสยังคงรูปร่างอวบอัดเอาไว้อย่างไม่ยอมเปลี่ยนแปลง หลักฐาน?? ตามรูปเลยฮะ

และแล้วน้ำหนักก็เพิ่มขึ้น (อะไรฟระ!!)

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นับเป็นช่วงที่คิสมีการเปลี่ยนแปลงที่หวือหวาที่สุดประหนึ่งหุ้น tfex

เรียกว่าหุ่นมาเปลี่ยนตอนอายุ 32-34 น้ำหนักทุกอย่างอะไรเปลี่ยนไปหมด

จากเดิม 48 ลงมาเหลือ 45 และทำนิวโลว์ที่ 40 แกว่งไปมา รีบาวน์บ้างเล็กน้อย เหวี่ยงไม่เกิน 42 และหักมุมทะลุแนวต้านไปเมื่ออาทิตย์กว่าๆ

ระหว่างนี้คิสมีโพสเรื่องหุ่นตัวเองในบ้านจีบันอยู่เนืองๆ

ต้นปีนี้ ตั้งเป้าหมายหุ่นปี 2018!!

และ อัพเดทหุ่นหลังผ่านไป 3 เดือน ได้หุ่นไม้โพแทคเตอร์กลับมาอีกรอบ

และความภาคภูมิใจล่าสุด ก่อนดัชนี body composition คิสจะขยับอีกครั้ง

[EVOHOLIC: Body Conscious 18++] อัพเดทการเปลี่ยนแปลงหุ่น 6 เดือน by หนูคิส

คิสเป็นคนที่หน้าบาน กระดูกใหญ่ ไหล่กว้าง ตัวเตี้ย รูปร่างเหมือนนักกีฬาชกมวยบวกยกน้ำหนัก ×2 แล้วไม่ต้องหารทิ้ง

(อนาโตมี่เหมือนพระเจ้าจะรู้ตัวว่าคิสเกิดมามีโหวงเฮ้งกวนประสาท หน้าตาบุคลิกทักทายเรื่องเก่ง จนมุมแค่ไหนคิสก็มั่นใจว่าคิสจะรอดค่ะ กล้ามทั้งนั้น)

กล้าม

สิ่งที่คิสเคยเกลียดที่สุดในตอนเด็ก รังเกียจที่สุดและภาวนาขอให้มันหายไปทุกลมหายใจเข้าออก

ไม่เคยรู้เลยว่านั่นคือ Key ชัดๆที่ทำให้คนเรามีสุขภาพและระบบการเผาผลาญที่ดี

และนี่คือเหตุผลที่คิสและคนรอบตัวเคยสงสัยว่าทำไมคิสกินเก่งเหมือนเตรียมไปออกรบได้ทุกวันแล้วยังฟรีซหุ่นได้อยู่ที่อวบๆ กินเก่งแค่ไหนก็พิสูจน์ได้ค่ะ เรียกตัวคิสไปเทสได้ คิสพร้อมจะก้าวขอออกไปแบบสังคมไร้เงินสดและบัตรเครดิต 24/7 เพื่อทุกคน

ใครที่คิดว่าตัวเองตัน...ตัวมีแต่กล้าม ไม่มีอะไรให้ลด

ใครที่คิดว่าตัวเองผอม แต่มีพุง ไม่รู้จะทำยังไง กระดูกก็โปนไม่เหลืออะไรจะให้ลด

ใครที่คิดว่าตัวเองแก่ อายุเยอะ ทำยังไงก็ไม่มีทางลง แค่หายใจก็อ้วนแล้วจะทำไง

เตรียมพบกับการเดินทางของหนูชราตัวอวบอ้วน

เรื่องราวของการรักษาระดับกล้ามเนื้อให้ได้เท่าลมหายใจ

...

เหนียงที่หายไป

โหนกแก้มที่ได้มา

และ

เหล็กจัดฟันที่ยังติดครึ่งๆกลางๆ เหมือนจ่ายตังค์ไม่ครบ

....

ที่นี่ เร็วๆนี้

V^___^V

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :) Line ID: kingofeugenie FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE

Discussion (3)

รอตอนต่อน้าาา

รอติดตามตอนต่อไปจ้า อ่านสนุกเพลินมาก น้ำหนัก new low ก็สวยงามมาก metabolic age ก็น่าอิจฉามากกกก แอบร้องไห้ในใจลึกๆ เพราะตัวเองตั้งแต่จำความได้ไม่เคยแตะเลข 4 ยกเว้นตอนป่วยเป็นไทฟอยด์สมัย ม.5 นำ้หนักน้อยสุดในชีวิตคือ 49 แต่นะ นั่นป่วย ไม่ขอนับ และพอหายป่วยมันก็กลับมาไวมาก เพราะที่เสียไปคือน้ำล้วนๆ

โอ้ว อย่าเพิ่งร้องค่ะ เลข 4 คิสแตะก็ตอนมัธยม ก่อนทะยานไม่หยุด คิสใช้เวลานานมากค่ะกว่าจะงัดจาก 5 ไป 4 และก็ค้างที่ 48 นานมากๆ นานเกิน 5 ปีแน่นอน เป็นจังหวะที่ปรับยากค่ะ

คิสจะมาเล่าต่อว่าจริงๆแล้ว "ตัวเลขบนตราชั่ง" เป็นแค่คำที่ใช้เรียกง่ายที่สุด แต่แทบไม่ได้บอกอะไรเราเลยว่าเรามีน้ำหนักหรือรูปร่างอยู่ในเกณฑ์ หรือควรปรับเปลี่ยนได้แล้ว

ยิ่งการที่มีโรคประจำตัว(คิสเข้าใจเลยค่ะ คิสมีเพื่อนที่เป็นโรคไทรอยด์ เค้ากินน้อยมากๆ น้อยจนคิสเป็นห่วง คนเห็นเค้าอวบ นึกว่าเค้ากินเยอะ ป่าวเลย ไม่ใช่เลย วินัยเค้าดีมากๆ แต่ต่อให้เค้าไม่กินอะไรเลย รูปร่างก็เป็นแบบนั้น บางอย่างเราไปกะเกณฑ์ไม่ได้ แต่...ถึงจะอวบ เราต้องเป็นหมูที่แข็งแรงค่ะ ออกกำลังกายไม่ได้ทำให้ผอม แต่ทำให้ร่างกายมีความต้านทานที่ดีขึ้น

คิสไม่ใช่คนออกสายแอโรบิค หรือออกให้ไขมันลด กล้ามเนื้อหาย คิสออกแบบเวทกับโยคะ(แต่หลังๆบอกตรงๆว่าไม่ได้เล่นโยคะเลย ทั้งๆที่มันสำคัญมาก) คิสมานั่งเป็นเพื่อนค่ะ คิสก็ต้อง reform ตัวเองอีกรอบ เพราะล่าสุดคิสก็ตบะแตก สติหลุด ตอนนี้ตัวเหลวมากๆค่ะ แต่คิสมั่นใจว่าทำได้มาแล้วหนึ่งครั้ง คิสก็ต้องทำได้อีกรอบ และถ้าคิสทำได้ คือผู้หญิงบนโลกทำได้ทุกคนค่ะ คิสเป็นคนความอดทนต่ำมากๆ ^^"

เขียนสนุกดีอ่ะ อ่านเพลินเลย ฮาตรงอ้วนยันนิ้วนี่แหละ แต่ช้านนิ้วไม่อ้วนนะ แต่มันใหญ่และยาวเหมือนมือผู้ชายอะ

ปะๆ อยากกินเนื้ออออออ