พี่พี่คนไหนรู้เรื่องVATบ้างคะช่วยหนูด้วย

ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ..ของความช่วยเหลือหน่อยอะค่ะ
คือว่าอ้อมทำงานเกี่ยวกับไฟแนนซ์รถนะคะ
คำถามคือว่า

นาย ก ซื้อรถกับ บ. A โดยที่ราคารถ(ไม่รวม vat) 600,000 แล้วก็มาจัดไฟแนนซ์กับบ.B แล้วยังงี้นาย ก. ต้องจ่ายเงินให้กับบริษัท B เท่าไหร่คะ

เท่าที่อ้อมเข้าใจนะ คือว่าบ.Bต้องจ่ายให้ บ.A  642,000 แล้วก็ นาย ก. ต้องจ่ายให้ B 686,940 ใช่ไหมคะ

เรื่องของเรื่องคือไม่เข้าใจว่าทำไมนาย ก. เหมือนจ่าย VAT 14 % เลยอะคะ


ถ้ายังไงรบกวนพี่พี่ช่วยหน่อยนะคะ
บุญกุศลครั้งนี้ขอให้พี่พี่สวยวันสวยคืนนะคะ


ขอบคุณมากค่ะ

Discussion (5)

ปกติแล้วผู้ซื้อคือ นาย ก ต้องจาก vat เมืองไทยคือ 7% บวกไปกับมูลค่าของ 
แต่ด้วยว่า ผู้ซื้อไม่ได้จ่ายเงินสด บริษัท finance จึงเข้ามาจ่ายให้ โดยที่นาย ก ต้องเสียค่าดอกเบี้ย ละอะไรหลายๆ อย่าง ลองเชคข้อตกลงของบริษัท finance ดีๆ นะคะ เพราะว่าเจอมาแล้วคิดดอกเบี้ยมั่วมากๆ มันจะมีการคิดหลายแบบ ละเราต้องขอดู ละคิดตามนะว่ามันตรงกันหรือเปล่า
เข้าใจไหม

คิดว่าไม่น่าจะใช่ว่านายก. ต้องจ่าย 14% นะคะ น่าจะจ่ายเท่ากับ 7% เท่านั้นค่ะ เพราะว่าหลักการของภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value added tax)คือ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกันค่ะ นายก. ควรจะจ่ายเพียง 642000 บาทค่ะ เพราะว่ากรณีบริษัท B ซื้อรถมาจาก บริษัท A บริษัท B สามาถขอคืนภาษีซื้อได้ค่ะ แต่ว่าต้องมาเสียภาษีขายน่ะค่ะ แต่ว่าหากหลังจากจัดไฟแนนซ์แล้วราคาค่ารถของนายก. จ่ายมากกว่า 642000 บาท น่าจะมาจากการคิดดอกเบี้ยไฟแนนซ์ค่ะ ซึ่งมีวิธีการคิดอีกแบบนึง เมื่อคิดย้อนกลับ จะเสียดอกเบี้ยแพงกว่าที่เค้าบอกค่ะ น่าจะ (PPMT method)
ใช่ค่ะ ผู้ซื้อต้องเสียภาษีเอง ส่วนบริษัทไฟแนนซ์ เค้าคิดดอกเบี้ยที่เรายืมจากเค้ามาจ่ายรถก่อน
หมายถึงว่าผู้ซื้อต้องรับผิดชอบภาษีเองใช่ป่าวค่ะ
ขอบคุณนะคะคุณScooterella